จับกุม ตำรวจ. ใช้รถขนผู้ต้องกักขัง ขนบุหรี่เถื่อนจากเขมรเข้าไทย

วันนี้ (5 ก.ย.2564) ภายหลังเพจบิ๊กเกรียน ได้เผยแพร่ข้อมูลข่าว เจ้าหน้าที่สรรพสามิต จับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยงานประจำชายแดนไทย-กัมพูชาหน่วยหนึ่งช่วงบ่ายวานนี้ (4 ก.ย. 64) โดยระบุข้อความว่า มีการใช้รถหลวงขนบุหรี่หนีภาษี ปรับ 3 แสนบาท เรื่องเงียบกริบ!

พร้อมกับติดแฮทแท็ก #ใช้รถหลวงขนบุหรี่หนีภาษี

 

 

ระบุว่า อยากให้นึกถึงจริยธรรมตำรวจกันบ้าง สงสารบิ๊กปั๊ด หรือ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พยายามจะเรียกศรัทธาตำรวจ นิ้วไหนร้ายต้องตัดทิ้ง แต่เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 3 กันยายน 2564 เจ้าหน้าที่สำนักปราบปราม กรมสรรพสามิต เฝ้าพฤติกรรมของ ด.ต.นายหนึ่ง ตำแหน่ง ผบ.หมู่ สังกัดตำรวจหน่วยงานประจำชายแดนไทย-กัมพูชา ขับรถกรงขังนำต่างด้าวข้ามไปส่งฝั่งกัมพูชา ด่านอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ขากลับขนของหนีภาษีเข้ามา และถูกจับบุหรี่ต่างประเทศเลี่ยงภาษี สรรพสามิตปรับไป 300,000 บาท ไม่ทราบว่า เรื่องที่เกิดขึ้น ผกก.หน่วยงานนั้น ได้รายงาน ผบ.ตร., ผบช. ,และ ผบก. ตามลำดับชั้นให้ทราบหรือไม่

ทั้งนี้ ภายหลังเกิดกรณีดังกล่าว ผู้สื่อข่าวได้พยายามตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้น กระทั่งได้รับการยืนยันจากหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ว่า มีการจับกุมตำรวจสังกัดดังกล่าวจริง มีการใช้รถหลวงซึ่งเป็นรถห้องขังขนบุหรี่เถื่อนใส่มาในรถจริง และมีการจับและปรับเป็นเงิน 3 แสนบาท เมื่อวานนี้ โดยเจ้าหน้าที่สรรพสามิตได้ติดตามเรื่องนี้มาตลอด ซึ่งพบมีการกระทำมาหลายครั้ง และมีการรายงานชื่อ-นามสกุลและสังกัดไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ด้วย พร้อมทั้งมีการตักเตือนจากผู้บังคับบัญชา แต่ก็ยังคงปฏิบัติอยู่ ซึ่งภายหลังถูกจับกุมได้มีการอ้างว่า เป็นของผู้บังคับบัญชาด้วย สำหรับรถของราชการที่ใช้ในการปฏิบัติภารกิจดังกล่าวมีอยู่ 2 คัน ซึ่งเข้าไปฝั่งกัมพูชาเกือบทุกวันด้วย

อย่างไรก็ตาม ทีมผู้สื่อข่าวได้สอบถามกรณีดังกล่าวไปยังหน่วยงานสรรพสามิตที่เข้าจับกุม ขณะนี้ยังไม่ได้รับคำตอบหรือข้อมูลจากหัวหน้าหน่วยงานดังกล่าว อีกทั้งมีการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงบางหน่วย ขอให้ผู้สื่อข่าวไม่นำเสนอข่าวนี้ เนื่องจากเกรงว่า หน่วยงานตำรวจจะเสียหายเพิ่มขึ้นไปมากกว่านี้ หลังจากเกิดกรณีอื้อฉาวของ ผกก.โจ้ และนายดาบตำรวจฉาวในพื้นที่ จ.ชลบุรี

ขณะเดียวกัน ภายหลังเกิดกรณีนี้ มีผู้ส่งข้อมูลเบาะแสการลักลอบนำของเถื่อนจากฝั่งประเทศกัมพูชา เข้ามาในประเทศไทยระบุว่า เกิดขึ้นตลอดแนวชายแดนตั้งแต่ อ.ตาพระยา ถึง อ.คลองหาด บางพื้นที่มีผู้บังคับหน่วยหรือระดับสูงอยู่เบื้องหลังด้วย ซึ่งเฉพาะการขนบุหรี่เถื่อนแต่ละเดือนมีไม่ต่ำกว่า 3,000 ลัง