รวบแล้วลูกจ้าง ปลิดชีพลูกสาวนายจ้าง เค้นสอบสารภาพ อ้างเป็นแฟนผู้เสียชีวิต

จากกรณีที่ สภ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ได้รับแจ้งเหตุหญิงสาวถูกปลิดชีพภายในบ้านเลขที่ 99/1 ชุมชนท่าบังมั่ง ต.วารินชำราบ อ.วารินชำราบ เจ้าหน้าที่จึงรุดไปตรวจสอบพบ ผู้เสียชีวิตคือ นางสาวอัญรินทร์ สีสด อายุ 26 ปี ถูกรัดคอด้วยสายชาร์จโทรศัพท์ สภาพนอนเปลือย เสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 4-5 ชั่วโมง ซึ่งมีทรัพย์สินเป็นกระเป๋าเงิน ที่มีเงินสดของผู้ตายหายไป

 

 

สำหรับผู้ก่อเหตุญาติผู้เสียชีวิตคาดว่าน่าจะเป็น นายทศพล พรบูลย์ อายุ 27 ปี มีภูมิลำเนาเดิมอยู่จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเมื่อหลายเดือนก่อนได้มาเป็นลูกจ้างดูแลร้านเกมส์ให้แม่ของผู้ตาย และพักอยู่ในร้านที่เปิดอยู่ด้านหน้าของบ้าน และถึงแม้ร้านเกมส์จะถูกสั่งปิดจากโรคระบาด แต่นายทศพลก็ยังพักอาศัยอยู่ภายในร้านเกมส์ เนื่องจากไม่มีที่จะไป และหลังเกิดเหตุก็ไม่พบเห็นตัวนายทศพลรวมทั้งทรัพย์สินและรถจักรยานยนต์ของร้านหายไปด้วยส่วนเวลาเกิดเหตุคาดจะเกิดหลังตี 2 เพราะช่วงนั้น ตอนยังไม่นอน ยังเดินออกมาดูปั้มน้ำที่ตั้งอยู่ใกล้ห้องนอนของผู้ตายด้วย

 

 

ล่าสุดเมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 14 ก.ย.64 พ.ต.อ.ชาญชัย อินนรา ผกก.กก.สส.ภ.จว.อุบลราชธานี พร้อมด้วย พ.ต.ท.บวรศักดิ์ คำรังษี รอง ผกก.สภ.วารินชำราบ นำกำลังเข้าล้อมจับ นายทศพล ผู้ก่อเหตุปลิดชีพสาววัย 26 ได้ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน อ.พิบูลมังสาหาร โดยจากการสอบสวน นายทศพล ยอมรับสารภาพว่า เป็นคนที่ลงมือฆ่าจริง หลังจากนั้นได้เก็บทรัพย์สินของตัวเองและเงินจากกระเป๋าของผู้ตาย ก่อนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีมาจอดเสียอยู่ข้างโรงสีในอำเภอสว่างวีระวงศ์ ก่อนทิ้งรถและขึ้นรถโดยสารประจำทางมาเปิดห้องพักที่รีสอร์ต ก่อนถูกจนท.จับกุมตัว

 

 

ทั้งนี้ นายทศพล ให้การอ้างว่า รู้จักกับผู้เสียชีวิตมาก่อน เมื่อ 4-5 ปีที่แล้วในผับแห่งหนึ่งของจังหวัด เคยคบหาเป็นแฟนกัน โดยคนทางบ้านไม่รู้ ก่อนที่ผู้ตายจะไปทำงานอยู่ที่ จ.ระยอง ต่อมา ตนได้หวนมาเล่นเกมส์ที่ร้านของแม่ผู้เสียชีวิต ก่อนเข้ามาเป็นลูกจ้างช่วยดูแลร้านอยู่นานเกือบ 1 ปี กระทั่งเกิดโควิดระบาดและร้านถูกสั่งปิด แต่ทางบ้านผู้เสียชีวิตก็ยังอนุญาตให้ตนพักอยู่ในร้านเกมส์ ที่อยู่ติดกับบ้านพักหลังเกิดเหตุ 

นายทศพล ยังอ้างต่อว่า ต่อมาเมื่อประมาณ 3 เดือนก่อน ผู้ตายได้ออกจากงานที่ จ.ระยอง กลับมาทำงานอยู่ที่ จ.อุบลราชธานี จึงได้แอบคบหากันอีก โดยคนทางบ้านผู้เสียชีวิตก็ไม่ทราบ ส่วนคืนวันเกิดเหตุนั้น ตนได้ปีนเข้าไปหาผู้เสียชีวิตทางหน้าต่างและมีสัมพันธ์กัน ก่อนจะมีเรื่องต่อว่าต่อขานกันว่า ต่างฝ่ายต่างคบหาเป็นแฟนกับคนอื่นในระหว่างนี้ไปด้วย ซึ่งตนรู้สึกโกรธผู้เสียชีวิตที่มาต่อว่าเรื่องดังกล่าว จึงเอามือปีบคอและใช้หมอนกดหน้า เพื่อให้หยุดพูดและไม่ให้ส่งเสียงร้อง ขอความช่วยเหลือจากคนในบ้าน จนขาดอากาศหายใจเสียชีวิต รู้สึกเสียใจที่ก่อเหตุดังกล่าว แต่ไม่ไปขอขมาศพ เพราะกลัวตัวเองได้รับอันตราย

 

เบื้องต้นได้เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา หลบหนีการจับกุมโดยใช้ยานพาหนะ และลักทรัพย์คุมตัวรอการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป