รพ.สุราษฎร์ธานี พร้อมรับผิดชอบ หลังรถฉุกเฉินถอยชนสาวบริจาคเลือดเสียชีวิต

สืบเนื่องจากกรณีที่ น.ส.เสาวนีย์ อรชร อายุ 36 ปี ไปบริจาคเลือดที่โรงพยาบาลชื่อดังเมืองสุราษฎร์ธานี ก่อนในช่วงที่เธอกำลังจะกลับบ้านนั้น กลับโดนรถฉุกเฉินทางของโรงพยาบาลชนจนกระที่งเสียชีวิต เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งทางญาติของสาวบริจาคเลือดเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุครั้งนี้ยังไม่ได้รับการรับผิดชอบใดๆ จากทางโรงพยาบาลเลย 

 

ล่าสุด นพ.ศักดิ์ชัย ตั้งจิตวิทยา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่เกิดเหตุดังกล่าว พร้อมทั้งน.พ.สมศักดิ์ นิลพงศ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี และตัวแทนจากบริษัทกรุงเทพประกันภัย ได้ออกมาแถลงการณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว พร้อมทั้งขอยืนยันขอรับผิดชอบและแสดงความเสียใจ 

โดยทางโรงพยาบาลได้เล่าเรียงไทม์ไลน์ว่า น.ส.เสาวณีย์ ที่เป็นผู้เสียชีวิต ได้ไปบริจาคเลือดให้กับทางโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี เมื่อบริจาคเลือดเรียบร้อย น.ส.เสาวณีย์ กำลังจะเดินกลับที่พัก แต่ระหว่างนั้น เจ้าหน้าที่ขับรถตู้พยาบาลของโรงพยาบาลถอยหลังมาชน น.ส.เสาวณีย์ กระทั่งเธอล้มลงไปพื้น ก่อนจะถูกรถฉุกเฉินทับอีกครั้ง จนบาดเจ็บสาหัสอยู่ที่ข้างตึกที่ไปบริจาคเลือด ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งรายละเอียดทั้งหมดเพื่อดำเนินการในด้านคดี  พร้อมทั้ง หาตัวผู้กระทำความผิด กระทั่งวันที่ 14 กันยายน ที่ผ่านมา ทางโรงพยาบาลได้ติดต่อให้ญาติผู้เสียชีวิตมาพูดคุยพร้อมเปิดภาพจากกล้องวงจรปิดให้ดู และได้มีการเจรจากันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ในรายละเอียดบริษัทประกันภัยจะจ่ายให้กับญาติผู้เสียชีวิตในวงเงิน 1,500,000 บาท ทว่าทางญาติผู้เสียชีวิตยังไม่พร้อมจะดำเนินการ จะต้องรอให้เสร็จเรื่องงานศพเสียก่อน ซึ่งทางโรงพยาบาลได้ติดต่อจะไปเป็นเจ้าภาพร่วมงานบำเพ็ญกุศลในวันเสาร์ที่จะถึงนี้แล้ว ในขณะที่ทางความคืบหน้าของคดี ได้ประสาน พ.ต.ท.ศุภชัย ศรีสมโภชน์ สารวัตรสอบสวน เจ้าของคดีเรียบร้อยแล้ว 

 

ตามรายงานระบุว่า สารวัตรสอบสวนเจ้าของคดี ได้แจ้งกลับมาแล้วว่าขณะนี้ได้แจ้งข้อหากับผู้ต้องหา ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีแล้ว ส่วนเรื่องที่ว่าทางโรงพยาบาลกล่าวอ้างว่าไม่ใช่คนขับรถของโรงพยาบาลนั้นไม่เป็นความจริง เพราะทางโรงพยาบาลไม่เคยพูดเรื่องนี้ ทั้งนี้ในเรื่องของการเยียวยานั้นอยู่ระหว่างการเจรจาไกล่เกลี่ยกับญาติผู้เสียชีวิต 

เบื้องต้นโรงพยาบาลจะเดินทางไปร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลศพ และมอบเงินเยียวยาเบื้องต้น จำนวน 20,000 บาท ขณะเดียวกันในส่วนของ รถที่ผู้ต้องหาขับประสบอุบัติเหตุมีการจัดทำพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 และประกันภัยภาคสมัครใจ

ขณะเดียวกัน นายสุธีรวัชร์ เจริญวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ยุติธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ติดต่อกับ นางวาสนา แม่ผู้เสียชีวิต และนายวิจารย์ ญาติของผู้เสียชีวิต เพื่อแสดงความเสียใจ พร้อมทั้งให้กำลังใจ รวมทั้งอธิบายหลักเกณฑ์ที่ทายาทจะมีสิทธิได้รับค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา และอธิบายกฎหมายที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับคดี และสิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 และประกันภัยภาคสมัครใจ

อย่างไรก็ตาม หากทายาทผู้เสียหายไม่ได้รับค่าสินไหมทดแทนจากพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 และประกันภัยภาคสมัครใจ ทายาทผู้เสียหาย โดยมีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาในฐานะเป็นผู้เสียหายในคดีอาญาตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติค่าตอบแทนฯ กรณีความผิดต่อชีวิต นั่นก็คือ 

- ค่าตอบแทนกรณีผู้เสียหายถึงแก่ความตาย ให้จ่ายตั้งแต่ 30,000 บาท 
- ค่าค่าจัดการศพ 25,000 บาท ทั้งนี้ การพิจารณาจ่ายค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา เป็นดุลพินิจของคณะอนุกรรมการฯ เป็นสำคัญ