- 22 ก.ย. 2564
หลานสาวน้ำพริกนิตยา แจงอีกมุม ปกป้องป้าเจ้าของร้าน แขก คำผกา สวนกลับ ทำชาวเน็ตทัวร์ยิ่งลงหนัก
ยังคงกลายเป็นประเด็นร้อนที่คุกรุ่นในโลกออนไลน์ขณะนี้ หลังจากที่เกิดกระแสดราม่า เจ้าของร้านน้ำพริกนิตยาออกมาหักหน้า แขก คำผกา พิธีกรและนักเขียนชื่อดัง กลางไลฟ์รายการโค้ชแขก ด้วยการไม่ยอมให้ให้ถ่ายทำรายการในร้าน ทั้งที่มีการติดต่อประสานงานกันมาแล้วล่วงหน้าเป็นเดือน จน แขก คำผกา บอกว่าร้านนี้ไม่ต้อนรับคนเสื้อแดง จนเกิดเป็นแฮชแท็กอันร้อนแรงในทวิตเตอร์
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด น.ส.ลักขณา ปันวิชัย หรือ แขก คำผกา ได้มีการเปิดเผยข้อความที่กล่าวถึงดราม่าดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ซึ่งในข้อความนั้นมีคำชี้แจงจากทางร้านน้ำพริกนิตยา โดยหลานสาวเจ้าของร้าน ซึ่งเธอยืนยันว่าป้าของเธอไม่ได้มีเจตนาไม่ต้องรับคนเสื้อแดง แต่แค่ต้องการเป็นกลางเท่านั้น และไม่รู้จักแขก คำผกา มาก่อน
หลานสาวเจ้าของร้านน้ำพริกนิตยา ได้ระบุชี้แจงถึงเรื่องนี้ว่า ถ้าสงบสติลงแล้วอยากจะขออธิบายให้ฟังถึงเบื้องหลังนะคะว่า คุณป้านิตยาโดนกดดันมากว่าไม่ให้สำภาษณ์ คุณป้าไม่เคยยุ่งกับการเมืองเลยไม่รู้จักคุณแขกไม่มีแม้กระทั้ง Facebook account ลองคิดดูสิคะ ว่าถ้าท่านซีเรียสกับการเมืองแล้วท่านจะตกลงให้สำภาษณ์ตั้งแต่แรกทำไม
คุณป้าเปิดบ้านที่เชียงใหม่ให้คนมานั่งสมาธิและพักฟรีทานฟรีมา 20 กว่าปีแล้ว ไม่เคยถามถึงทางเลือกทางการเมือง ในคลิปนี้คุณป้าไม่ได้พูดเลยนะคะว่าไม่ต้อนรับเสื้อแดง ถ้ารังเกียจแล้วจะจัดอาหารรองรับไว้ให้ทำไม ขอร้องว่าอย่ากล่าวหาท่านผิดๆ ท่านอาจแยกไม่ออกตามที่ได้ยินมาว่ารายการของคุณแขกเป็น lifestyle TV หรือ political TV กันแน่ (รายการไลฟ์สไตล์หรือรายการด้านการเมือง)
ซึ่งคุณป้าเห็นตามสมควรแล้วว่าควรทำตัวเป็นกลางซึ่งทำให้ทุกๆ คนเข้าใจผิดแล้วกลายเป็นดรามาของสังคม ท่านสร้างธุรกิจนี้มา" ซึ่งหลังจากที่หลานสาวเจ้าของร้านน้ำพริกนิตยาได้ออกมาชี้แจงนั้น ก็ทำให้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นที่หลากหลายอย่างมาก
ขณะเดียวกัน แขก คำผกา ได้ตอกสวนกลับคำชี้แจงนี้ทันทีว่า รายการของเธอนั้นได้มีการวางแผนงานเป็นขั้นตอน ซึ่งไม่ใช่ว่าจะยกมือถือขึ้นมาถ่ายง่ายๆ อีกทั้งตอนติดต่อตอนแรกทางร้าน ยังจะขอโปรโมทงานบุญของร้านอยู่เลย ซึ่งเจ้าตัวก็ยินดี แต่พอวันจริงกลับมาแหกหน้ากันกลางไลฟ์ และพยายามยัดเยียดจะเลี้ยงข้าว ซึ่งก็ไม่ได้ตอบตกลงไป เพราะมาถ่ายรายการ ไม่ได้มากินข้าวฟรี
นอกจากนี้เธอยังได้แจกแจงอธิบายถึงรายละเอียดอีกว่า
1. ทีมงานติดต่อล่วงหน้า
2. ร้านนัดหมายวันถ่าย
3. ร้านฝากข่าวพีอาร์งานบุญให้เราพูดในวันที่จะมาถ่าย
4. ร้านแจ้งล่วงหน้าว่าคุณนิตยาจะมาเข้ารายการด้วย
5. ก่อนไลฟ์ ทีมงาน stand by ที่ร้าน คุณนิตยารับรู้ และรอเราที่ร้าน
6. เราเปิดรายการหน้าร้านคุณนิตยาก็ยืนดูอยู่จากในร้าน
7. เป็นอย่างที่เห็นในไลฟ์
8. คุณนิตยาทำเป็นมึนว่าไม่เคยดูรายการ ขอไม่ให้ถ่าย
9. มีความพยายามจะเลี้ยงอาหารเราหลังจาก "แหก" เรากลางไลฟ์
10. แขกบอกว่าเราไม่ได้มากินฟรี เรามาถ่ายรายการ
ก่อนที่เธอจะย้ำอีกครั้งว่า การทำรายการเรามีกองประสาน location และไม่มีใครบ้าพอจะขนกล้อง อุปกรณ์ไลฟ์ใส่รถแล้วเที่ยวไปขอถ่ายร้านนั่นร้านนี้ไปเรื่อยโดยไม่วางแผน ซึ่งการไลฟ์ on location ต้องมีทีม support ที่สถานีฯ อีกทีมทำงานพร้อมกันนะคะ ไม่ได้ยกโทรศัพท์มาไลฟ์แบบดื้อๆ
หลังจากที่เรื่องราวดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปแล้ว ทำให้ชาวเน็ตได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างมาก บ้างก็เข้ามาบอกว่า หากตัดเรื่องทัศนคติทางการเมืองออกไปเลย การที่ทีมงานตกลงกันเป็นเดือน วางแผนโปรโมท เดินทางมาถึง ดึงเข้ารายการ ถ่ายไลฟ์กันแล้ว แล้วบอกว่าไม่ให้ถ่ายทำเลยนั้น ถือเป็นเรื่องที่เจ้าของร้านไม่สมควรทำอย่างยิ่ง
หากไม่อยากให้ถ่ายทำ ไม่สะดวกอะไรใดๆ สามารถติดต่อพูดคุยได้ตลอด แต่ไม่ทำ และที่หลานของคุณนิตยาบอกว่า ถ้าไม่สะดวกจะให้สัมภาษณ์จะตกลงแต่แรกทำไม เป็นคำพูดที่ไม่สมเหตุสมผล ควรเป็นคำพูดที่ว่า ถ้าไม่สะดวกจะให้สัมภาษณ์ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม ก็ควรปฏิเสธตั้งแต่แรก เพื่อไม่ให้เสียการเสียงานของทั้ง 2 ฝ่าย
ข้อมูลจาก Lakkana Punwichai
ภาพจาก SporkDark