แม่ค้าโทรศัพท์ออนไลน์ ยังไม่สลด เปิดร้านต่อสบายใจ แม้เพิ่งทำน้องม.2เสียชีวิต

สืบเนื่องจากที่ก่อนหน้านี้ได้เกิดกรณี แม่ค้ามือถือออนไลน์โกงโทรศัพท์น้องม.2 ทำให้น้องเครียดจนส่งผลให้น้องเกิดอาการเส้นเลือดในสมองแตก และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ตามรายงานระบุว่า น้องเป็นนักเรียนของโรงเรียนเชียงดาววิทยาคม อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ที่ได้ขอเงินพ่อแม่ไปซื้อ โทรศัพท์มือถือมือสอง ก่อนถูกทางแม่ค้าบล็อคช่องทางติดต่อหลังได้รับเงินแล้ว

ก่อนหน้านี้ คุณพ่อของน้องม.2 รายดังกล่าวได่เเปิดใจว่า น้องเสียใจและเสียความรู้สึกมากที่ถูกโกง ก่อนน้องจะเสียชีวิต ยังโทร. มาหาพ่อกับแม่ก็ร้องไห้ตลอด แม่ก็บอกน้องว่าไม่เป็นไรไม่ต้องเครียด เดี๋ยวจะหาเงินให้ซื้อใหม่ น้องก็บอกว่าไม่เป็นไร สงสารพ่อกับแม่ หลังจากนี้อยากให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย และไม่อยากให้คนอื่นๆ ทั่วประเทศต้องโดนแบบลูกของตนอีก

ล่าสุด เรื่องนี้กลายเป็นที่พูดถึงอย่างดุเดือดในโลกออนไลน์อีกทั้ง เนื่องจากชาวเน็ตได้เข้าไปส่องหน้าเพจของแม่ค้าออนไลน์คนนี้ ซึ่งพบว่ายังคงเปิดร้านขายมือถือออนไลน์อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งไม่มีท่าทีเสียใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด ที่ทำให้คนหนึ่งต้องเสียชีวิต 

นอกจากนี้ชาวเน็ตยังวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงการทำงานของตำรวจไซเบอร์ว่ามัวทำอะไรอยู่ ทำไมยังปล่อยให้มิจฉาชีพลอยนวลแบบนี้ มัวแต่ไปจริงจังกับคดีอะไรอยู่หรือไม่ เนื่องจากเกรงว่าคดีนี้จะเงียบไปจนทำให้น้องที่เสียชีวิตและครอบครัวไม่ได้รับความเป็นธรรม

ขณะที่โลกออนไลน์ได้แฉพฤติกรรมล่าสุดของแม่ค้าสายรายนี้ ที่ได้คุยกับน้องม.2 รายดังกล่าว ซึ่งน้องส่งข้อความบอกไปว่าจะเอาเครื่องไหน และน้องก็บอกว่าพร้อมโอนเงิน พร้อมทั้งขอเลขบัญชีซึ่งก่อนจะโอนน้องก็ถามว่า "ไม่โกงใช่ไหมครับ" แม่ค้ายังตอบกลับมาว่า "จ้า ผ่านได้เลยถ้ากลัว"

หลังจากนั้น น้องจึงได้ตัดสินใจโอนเงิน และส่งสลิปโอนเงินไป แล้วบอกว่า "โอนแล้วครับ ส่งของวันไหนครับ" ก่อนที่แม่ค้าตอบกลับมาว่า "รับยอดค่ะ ขอที่อยู่ด้วย ส่งของวันพรุ่งนี้นะคะ" ซึ่งหลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย ทำให้น้องเครียดอย่างมาก กระทั่งผ่านไป 1 สัปดาห์ก็ยังเงียบ จนเกิดเป็นความเครียดสะสมและเกิดเหตุสลดดังกล่าว ขณะที่อินสตาแกรมที่โกงน้องก็เพิ่งปิดบัญชีไป

อย่างไรก็ตาม ด้าน พ.ต.อ.สกุลรัชช์ คงทอง ผกก.สภ.นาหวาย จ.เชียงใหม่ ได้เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า ตรวจสอบไปที่บัญชีพร้อมเพย์ของคนร้ายกับทางธนาคาร และตรวจสอบทะเบียนราษฎร์แล้วพบว่าชื่อและนามสกุลนี้ที่เหมือนคนร้ายมี 2 คน จึงอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบว่าใครคือคนที่ก่อเหตุ 

โดยขณะนี้รอเอกสารพร้อมเพย์กับทางธนาคาร และจะยื่นขอศาลอนุมัติหมายจับคนร้ายทันที ไม่น่าเกินวันที่ 23 กันยายน 2564 ซึ่งคาดว่ามีเหยื่อประมาณ 500 คน โดยคนร้ายอยู่ที่ภาคกลาง พฤติกรรมคือ หลังจากหลอกเหยื่อได้สำเร็จก็จะเปลี่ยนโปรไฟล์และสร้างบัญชีใหม่ไปเรื่อยๆ เพื่อไปหลอกคนอื่นต่อไป