- 24 ก.ย. 2564
จับแล้ว เด็กนักเรียน ม.5 ซ้อนท้ายจักรยานยนต์ไปร่วมชุมนุม นัดหมายผ่านออนไลน์ หลังตำรวจสลายการชุมนุมพร้อมพวก 8 คน วิ่งหลบหนีด่านตำรวจ ตระเวนทุบทำลายทรัพย์สินตามเส้นทางผ่านแยกมเหสักข์จริง รับชุมนุมมาแล้ว 4 ครั้ง
วันนี้ (24 ก.ย.2564) พล.ต.ต.เมธี รักพันธุ์ ผบก.น.6 สั่งการให้ พ.ต.อ.วัชรวีร์ ธรรมเสมา ผกก.สน.บางรัก พ.ต.อ.นริศ ปรารถนาพร ผกก.สส.บก.น.6 พ.ต.ท.อัครพล จั่นเพชร รอง ผกก.สส.บก.น.6 พ.ต.ท.สาธิต สอนชา รอง ผกก.สส.สน.บางรัก
พร้อมด้วยพ.ต.ท.พูลพัฒน์ ธรรมรัชต์เจริญ สว.สส.สน.บางรัก และ พ.ต.ท.อนุพงษ์ อรุณคีรีโรจน์ สว.สส.สน.บางรัก ,ร.ต.อ.อำนาจ เต๊กอวยพร รอง สว.สส.สน.บางรัก และ ร.ต.อ.ปิยะวุฒิ พลสงคราม รอง สว.สส.สน.บางรัก ร่วมกันนำกำลังตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางรัก และตำรวจ กก.สส.บก.น.6 จับกุมตัว เด็กม.5 ร่วมชุมนุมม็อบ อายุ 17 ปี ผู้ต้องหาทุบตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร
พร้อมของกลาง เสื้อยืดแขนสั้นคอกลมสีดำ จำนวน 1 ตัว กางเกงขายาวสีครีม จำนวน 1 ตัว โดยสามารถจับกุม เด็กม.5 ร่วมชุมนุมม็อบ ได้หน้าบ้านหลังหนึ่ง ซอยประชาอุทิศ 44 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 11 สิงหาคมเวลาประมาณ 20.00น. ที่ผ่านมา ตำรวจ สน.บางรัก ได้รับแจ้งว่าตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจรแยกมเหสักข์ แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร ถูกกลุ่มคนร้ายทุบ ทำลาย ทำให้กระจกแตกได้รับความเสียหาย หลังจากนั้นพนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ( พฐ.) ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางรัก ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ และตามเส้นทางหลบหนีของกลุ่มคนร้าย
โดยกล้องดังกล่าวเป็นไปตามโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการสืบสวนและการป้องกัน อาชญากรรม โดยใช้กล้องวงจร ปิด (CCTV) ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ติดตั้งภายในพื้นที่ เชื่อมต่อกับกล้องวงจรปิด กรุงเทพมหานคร จนสามารถระบุตำหนิรูปพรรณคนร้าย และยานพาหนะ อย่างชัดเจน ซึ่งต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน และได้ยื่นคำร้องต่อศาลแขวงพระนครใต้เพื่อขอหมายจับผู้กระทำความผิด และศาลได้อนุมัติออกหมายจับ
การจับกุม เด็กม.5 ร่วมชุมนุมม็อบ ครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 11 สิงหาคมเวลาประมาณ 20.00น. ที่ผ่านมา ตำรวจ สน.บางรัก ได้รับแจ้งว่าตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจรแยกมเหสักข์ แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร ถูกกลุ่มคนร้ายทุบ ทำลาย ทำให้กระจกแตกได้รับความเสียหาย
หลังจากนั้นพนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ( พฐ.) ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางรัก ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ และตามเส้นทางหลบหนีของกลุ่มคนร้าย
กล้องดังกล่าวเป็นไปตามโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการสืบสวนและการป้องกัน อาชญากรรม โดยใช้กล้องวงจร ปิด (CCTV) ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ติดตั้งภายในพื้นที่ เชื่อมต่อกับกล้องวงจรปิด กรุงเทพมหานคร จนสามารถระบุตำหนิรูปพรรณคนร้าย และยานพาหนะ อย่างชัดเจน ซึ่งต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน และได้ยื่นคำร้องต่อศาลแขวงพระนครใต้เพื่อขอหมายจับผู้กระทำความผิด และศาลได้อนุมัติออกหมายจับ
ต่อมาตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางรัก ได้ร่วมกับ ตำรวจ กก.สส.บก.น.6 ทำการสืบสวนจนทราบว่าผู้ก่อเหตุพักอาศัยอยู่บริเวณซอยประชาอุทิศ 44 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ จนกระทั่งพบนายโป้ง ยืนอยู่บริเวณด้านหน้าบ้านดังกล่าว เป็นบุคคลตามหมายจับ จึงได้แสดงตัวทำการจับกุม จึงคุมตัวสอบสวน ที่ สน.บางรัก
สอบสวนผู้ต้องหา ให้การยอมรับสารภาพว่าเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ได้เดินทางไปร่วมการชุมนุมฯ กับพวกซึ่งได้รู้จัก และได้มีการนัดหมายชักชวน ผ่านออนไลน์ หลังจากได้มีการสลายการชุมนุมฯ ของตำรวจ นายโป้ง ได้นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์โดยมีเพื่อนอีกรายเป็นผู้ขับขี่ ได้ตระเวนขับขี่รถจักรยานยนต์กับพวก จำนวน 8 คน รถจักรยานยนต์ จำนวน 4 คัน หลบหนีด่านตรวจ และทุบทำลายทรัพย์สินของทางราชการ ตามเส้นทางผ่าน
ร่วมกับพวกทุบทำลายตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจรแยกมเหสักข์ จริง โดยเจ้าตัวเข้าร่วมการชุมนุมฯ มาแล้วประมาณ 4 ครั้ง ตั้งแต่ เดือน สิงหาคม ปัจจุบันนายโป้งกำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในย่านเขตราษฎร์บูรณะด้วย
อย่างไรก็ตามตำรวจต้องทำการสอบสวนขยายผลอีกครั้ง เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์”ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ยางรักดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป