กระทรวงศึกษาธิการ ไม่บังคับ รร. "เปิดเทอม" เต็มรูปแบบพร้อมกัน 1 พ.ย.นี้

ความคืบหน้าการ การเปิดเทอมภาคเรียนที่ 2/2564  ประมาณต้นเดือนพฤศจิกายน 2564 ตามที่ นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เคยแถลงผ่านสื่อทุกช่องทางของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นั้น ซึ่งเหลืออีกเพียงไม่กี่วันก็ใกล้กำหนดเดิม แต่ล่าสุดก็มีมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น

 

โดย รมว.ศธ กล่าวว่า สถานการณ์หลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป และไม่เป็นไปตามความคาดหมาย อีกทั้งการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้นักเรียนอายุ 12-17 ปีนั้น ไม่ใช่การบังคับ แต่โรงเรียนต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง และนักเรียนต้องยินยอมเช่นกัน เพราะนี่คือสิทธิของเด็กที่ ศธ.ให้ความสำคัญอยู่เสมอ

 

ทั้งนี้ สถานศึกษาในสังกัด ศธ. ได้เร่งมือในการสำรวจความต้องการของนักเรียนและผู้ปกครอง ว่าจะยินยอมฉีดวัคซีนไฟเซอร์หรือไม่ ซึ่งทั้งหมดจะต้องเรียบร้อยภายในวันที่ 26 กันยายนนี้ เพื่อให้โรงเรียนมีเวลาประสานงานกับหน่วยงานในพื้นที่ของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในการเข้ามาดำเนินการจัดสถานที่ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้นักเรียน ภายในโรงเรียน

 

นอกจากนี้ แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. ระบุว่า การเปิดเทอม ภาคเรียนที่ 2/2564 อาจจะเลื่อนออกไปจากเดิมวันที่ 1 พฤจิกายน นี้ เนื่องจากหลายพื้นที่ยังพบการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งภาพรวมการติดเชื้อของประเทศก็ยังมีตัวเลขสูงอย่างน่าเป็นห่วง แนวโน้มการเปิดเทอม อย่างเร็วที่สุดอาจจะเลื่อนเป็นวันที่ 15 พฤศจิกายน นี้ และรูปแบบการเปิดเรียนอาจจะเป็นไปตามข้อเสนอของที่ประชุมคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (บอร์ด กพฐ.) ครั้งที่ 9/2564 เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2564 ที่ผ่าน

 

ทั้งนี้ มติบอร์ด กพฐ. ที่มี รศ.ดร.เอกชัย กี่สุขพันธ์ นั่งหัวโต๊ะเป็นประธานในการประชุมในฐานะประธานบอร์ด กพฐ. นั้นไม่บังคับให้สถานศึกษาเปิดเทอมเต็มรูปแบบพร้อมกันทั่วประเทศ 100% แต่ละโรงเรียนอาจจะสลับให้นักเรียนมาเรียนได้ภายใต้มาตรการด้านสาธารณสุขแบบเข้มข้นเพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครองที่มารับ-ส่งนักเรียน