- 26 ก.ย. 2564
ปัญหาโลกแตก สาวคิดไม่ตก ออมเงินเยอะ แต่ไม่ใช้ชีวิต กับ ออมเงินน้อย แต่ได้ใช้ชีวิต แบบไหนดีกว่ากัน
เงินคือสิ่งที่ขาดไม่ได้อย่างยิ่งในยุคนี้ เพราะไม่มีอะไรฟรีไปเสียทุกอย่าง ทว่าหลายคนก็มีเหตุผลในการทำงานเพื่อที่จะเก็บเงินให้ได้เยอะๆ แต่บางคนก็ยังคิดไม่ตกว่า การเก็บเงินให้ได้เยอะๆ หรือการนำเงินนั้นออไปใช้ชีวิตมันดีกว่ากัน
โดยชาวเน็ตรายหนึ่งได้มาถามความคิดเห็นจากเพื่อนๆ ในโซเชียลในเว็บไซต์ พันทิป ถึงหัวข้อกระทู้ที่ว่า "ออมเงินเยอะ แต่ไม่ใช้ชีวิต กับออมเงินน้อย แต่ได้ใช้ชีวิต แบบไหนดีกว่ากันคะ" ซึ่งก็มีชาวเน็ตต่างให้ความสนใจและเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้เธอยังได้ถามอย่างละเอียดอีกว่า "การออมเงินชีวิตหลังเกษียณสังคมผู้สูงอายุการวางแผนการเงิน ระหว่างออมเงิน 15% ของรายได้ แต่ไม่ได้กิน ไม่ได้เที่ยว เต็มที่ ในวัยที่สามารถเที่ยวได้สนุก กับออมเงิน 3% ของรายได้ แต่ได้กิน ได้เที่ยว เต็มที่ ในวัยที่สามารถเที่ยวได้สนุก แต่ไปหนาวๆ ร้อนๆ ตอนแก่แทน แบบไหนดีกว่ากันคะ"
ทั้งนี้ชาวเน็ตรายหนึ่งได้แสดงความคิดเห็นว่า ออมเยอะๆ ไม่ได้แปลว่าจะต้องทำแบบนั้นไปตลอดจนชีวิตไม่มีความสุข คิดแบบนั้นไม่ได้ ตอนผมเริ่มทำงานใหม่ๆ ออม 20% ของเงินเดือน พอปีถัดๆไปเงินเดือนเพิ่มก็เก็บทั้งหมด
จนไปมากสุดคือออม 60% ของเงินเดือน ส่วนเงินพิเศษอื่นๆ เช่น OT โบนัส เบี้ยเลี้ยง และอื่นๆ ได้ประมาณ 50% ของเงินเดือน เงินส่วนนี้ผมเก็บ 100% เลย แล้วเอาเงินทั้งหมดไปลงทุนในตลาดหุ้น ซึ่งก็ได้กำไรดีมาก
ผ่านไปประมาณสิบปี พอร์ตลงทุนของผมโตขึ้นเป็นหลายสิบล้าน เดี๋ยวนี้แต่ละปีผลตอบแทนจากการลงทุนเยอะกว่ารายได้จากเงินเดือนซะอีก ผมก็เอาเงินปันผลและกำไรต่างๆ มาใช้จ่ายได้สบายๆ โดยไม่ต้องออกแรงทำงาน
นี่คือความต่างระหว่างการเก็บเงินไปลงทุน แล้วค่อยเอาผลกำไรมาใช้จ่ายฟุ่มเฟือย กับการเอาเงินไปใช้จ่ายโดยตรง ผมไม่ได้ประหยัดไปตลอดชีวิต มันแค่ช่วงเดียวเท่านั้น
บ้างก็เข้ามาคอมเม้นต์ว่า ขึ้นอยู่กับความชอบใช้ชีวิตของแต่ละคน บางคนเค้าไม่อยากเที่ยวไม่อยากกินเค้าก็อาจจะชอบออมเงินให้ได้เยอะเยอะ บางคนที่ชอบเที่ยวชอบกินก็ออมนิดหน่อยพอเอามาใช้กินใช้เที่ยวตอนนี้เพราะไม่รู้ว่าอ่ะเมื่อไหร่จะตาย แต่ถ้าเป็นคนที่ชอบกินชอบเที่ยวแล้วมาถามคำถามนี้ก็น่าจะบอกว่าเอาทางสายกลางเป็นหลักได้ไหมออม 7% เที่ยวซัก 8% อย่างนี้
ข้อมูลจาก พันทิป