- 27 ก.ย. 2564
วิเคราะห์เทียบ น้ำท่วมปีนี้จะซ้ำรอยปี 54 หรือไม่ หลัง พายุเตี้ยนหมู่ พ่นพิษหนัก ทำหลายจังหวัดจมบาดาล
เป็นอีกหนึ่งปีที่ประเทศไทยต้องพบเจอกับ อุทกภัยครั้งใหญ่ในรอบหลายปี ซึ่งผลทำให้ประเทศไทยเกิด น้ำท่วมฉับพลัน ในหลายๆ พื้นที่ บ้านเรือนไม่ต่ำกว่า 27 จังหวัดต้องจมอยู่ใต้บาดาล อันเนื่องมาจาก พายุเตี้ยนหมู่ หรือ พายุดีเปรสชั่นเตี้ยนหมู่ ที่ ส่งผลให้ภาคอีสาน ภาคกลางตอนบน รวมไปถึง กรุงเทพฯและปริมนฑลได้รับผลกระทบอย่างหนัก
และที่น่าเป็นห่วงมากอีกที่หนึ่งนั่นก็คือ เขื่อนลำเชียงไกร อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา เนื่องจากมีรายงานเตือนภัยจาก กองทัพภาคที่ 2 บอกว่า เขื่อนลำเชียงไกรแตกแล้ว ทำให้ชาวบ้านตื่นตกใจอย่างมาก ก่อนที่ เพจ โครงการชลประทานนครราชสีมา จะออกมาแก้ข่าวว่า อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร (ตอนล่าง) ยังไม่แตก แต่ระดับน้ำเกินจึงไหลล้นสปิลเวย์
เกี่ยวกับเรื่องนี้ขณะที่ ผู้ประกาศข่าวชื่อดัง อย่าง สรยุทธ สุทัศนะจินดา กำลังดำเนินรายการช่วงเช้าอยู่นั้น สรยุทธ ก็ได้ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ น้ำท่วมใหญ่ 2564 ครั้งนี้ว่า มันจะไม่เป็นอย่างน้ำท่วมปี 54 แน่นอน อีกทั้งยังได้แจกแจงข้อเหตุผลที่อ้างอิงได้เป็น 2 ข้อใหญ่ๆ ดังนี้
1. เขื่อนหลักอย่างเขื่อนภูมิพลกับเขื่อนสิริกิติ์น้ำน้อย ประมาณ 50% ไม่เหมือนปี 2554 เว้นแต่จะมีพายุเข้ามาอีก 2 ลูก
2. ในปี 2554 จะมีน้ำท่วมจากตอนบนของประเทศ ซึ่งขณะนั้น น้ำได้ไหลลงมาเรื่อยๆ จนมาถึง จ.นครสวรรค์ ที่เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่กั้นน้ำเอาไว้ ขณะนั้น มีน้ำอยู่ในระดับมากกว่า 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่ในปีนี้ระดับน้ำยังไม่สูงถึงขนาดนั้น ในขณะที่เขื่อนอื่นๆ ในประเทศไทย ก็ยังมีระดับน้ำที่ไม่สูงเท่าปี 2554
ทั้งนี้ ในปี 2554 ยังเป็นเรื่องน้ำหลากเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย คือ น้ำไม่ได้มาจากแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างเดียว แต่มาจากทุ่งด้วย ไหลจากทุ่งเข้าท่วมถนน เป็นคนละแบบกับปี 2564 ซึ่งจากข้อมูลอ้างอิงต่างๆ จึงสรุปได้ว่า ถ้าแบ่งเป็นพื้นที่ตรง จ.นครราชสีมา , จ.ชัยภูมิ อันนี้หนักกว่าปี 2554 ถ้าแต่ยึดตรงพื้นที่ภาคกลาง จะเบากว่าปี 2554 ฉะนั้นไม่ต้องตระหนกตกใจ แต่ถึงอย่างไรก็ประมาทไม่ได้
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ที่นี่อำเภอโนนไทย