เฉลย น้ำผุดกลางถนน หน้าศาลเจ้าพ่อขุนด่านธงชัย

หลังจากที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้แชร์คลิปวิดีโอ ที่เผยให้เห็นภาพน้ำผุดที่แสกขึ้นมากลางถนน บริเวณหน้าศาลเจ้าพ่อขุนด่านธงชัย บนเส้นทางหลวงหมายเลข 3004 ถนนสายซับสมอทอด-วังพิกุล ในพื้นที่หมู่ที่ 2 ต.ซับไม้แดง อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งหลังจากที่ข่าวสะพัดออกไป ทำให้ชาวบ้านต่างแห่มากรอกน้ำไปอาบกันอย่างมาก เนื่องจากเชื่อว่า น้ำผุดปริศนานี้เป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์

ล่าสุด นายกำธร เจริญพุฒ รองผู้อำนวยการแขวงทางหลวงฝ่ายปฏิบัติการแขวงทางหลวงเพชรบูรณ์ที่ 2 บึงสามพัน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่แขวงฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดที่เกิดน้ำผุดขึ้นมาจากพื้นผิวถนน กระทั่งพบสาเหตุจนนำไปสู่การเฉลยน้ำผุดกลางถนนว่า แท้จริงแล้ว น้ำผุดหน้าศาลเจ้าพ่อขุนด่านธงชัย นี้เกิดจากน้ำซับที่สะสมอยู่ที่ฝั่งด้านเขาทำให้เกิดแรงดันน้ำขึ้นมา จนทำให้เกิดเป็นน้ำผุดขึ้นมาที่บนถนนอย่างที่เห็น

นอกจากนี้ในตรวจสอบในเบื้องต้น ยังพบอีกว่าตอนนี้วัสดุที่เป็นโพรงอยู่ด้านล่างยังคงมีอยู่ แต่ก็มีไม่มาก ซึ่งตนคิดว่าการยุบตัวคงยังไม่เกิด แต่ถ้ายังขืนปล่อยไว้แบบนี้ ในอนาคตไม่แน่ว่าอาจจะเกิดการยุบตัวของพื้นถนนได้ ซึ่งนั่นเป็นประเด็นที่ชาวบ้านกังวลว่า ถนนบริเวณดังกล่าว จะเกิดการยุบตัวหรือไม่

ทั้งนี้ นายกำธร เจริญพุฒ ยังได้อธิบายต่อไปว่า เรื่องการแก้ไขซ่อมแซมในระยะยาวนั้น คงต้องรอให้น้ำที่ผุดขึ้นมาหมดไปเสียก่อน โดยคาดว่าหมดหน้าฝนนี้น้ำก็จะหมด ซึ่งหลังจากนั้นถึงจะดำเนินการแก้ไขได้ ซึ่งอาจมีการวางท่อใต้ผิวถนนต่อจากน้ำผุด ให้มีขนาดที่ใหญ่กว่าเดิม หรือเพิ่มปริมาณท่อให้มีจำนวนแถวมากขึ้น จากเดิมที่เราเคยวางท่อ ขนาด 4 นิ้ว จำนวน 2 แถว ยาวไปถึงริมถนน หน้า อบต.ซับไม้แดง เพื่อเป็นการระบายน้ำเพราะตรงนี้จะมีน้ำผุดขึ้นมาตลอดตั้งแต่ปี พ.ศ.2500 เพราะเป็นตาน้ำ

รองผู้อำนวยการแขวงทางหลวงฝ่ายปฏิบัติการแขวงทางหลวงเพชรบูรณ์ที่ 2 ยังได้อธิบายทิ้งท้ายอีกว่า จริงๆ แล้ว บริเวณใกล้เคียงก็มีหลายจุดที่เกิดน้ำผุดขึ้นมาในลักษณะเดียวกัน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ แค่สำหรับจุดนี้ที่น้ำผุดขึ้นมาบนผิวถนน ก็เช่นเดียวกัน เพียงแค่บังเอิญเกิดขึ้นหน้าศาลเจ้าพ่อขุนด่านธงชัย ซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาของคนในพื้นที่ เลยกลายเป็นความเชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่รักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละบุคคล ซึ่งความเชื่อเหล่านี้อยู่คู่กับคนไทยตั้งแต่อดีต

 

 

อย่างไรก็ตามได้มีหน่วยงานออกมาเตือนพี่น้องประชาชนในพื้นที่แล้วว่า ไม่ควรนำน้ำดังกล่าวไปดื่มกิน หรือแม้กระทั่งน้ำไปอาบ เนื่องจากน้ำบริเวณดังกล่าวยังไม่ได้รับการยืนยันว่าปลอดภัยเพียงใดสำหรับการบริโภค