ลูกศิษย์อาลัย หลวงพ่อสุพจน์ สีลจนฺโท พระวัดไทยมิวนิค มรณภาพภายในกุฏิ

วันที่ 5 ต.ต 64 เพจเฟซบุ๊ก พระเมธีธรรมาจารย์ - เจ้าคุณประสาร โพสต์เกี่ยวกับ "หลวงพ่อสุพจน์ สีลจนฺโท มรณภาพ" โดยระบุว่า แจ้งท่านที่เคารพนับถือ และศิษยานุศิษย์เพื่อทราบ  หลวงพ่อสุพจน์ สีลจนฺโท วัดนครป่าหมาก เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร ปีนี้ได้ไปจำพรรษาที่วัดไทยมิวนิค ประเทศเยอรมนี เมื่อวันอังคารที่ 21 กันยายน 2564 เวลา 11.00 น.(เวลาท้องถิ่น Munich , Munchen)พระวัดไทยมิวนิคไปนิมนต์ท่านให้ลงมาฉันภัตตาหารเพล(ท่านอยู่ชั้น 2) ท่านไม่ตอบรับ เข้าไปดูในห้องท่านนอนนิ่ง ท่านเจ้าอาวาสจึงเรียกรถพยาบาลมารับท่านไปที่โรงพยาบาลใหญ่ Klinikum rechts der Isar คลีนิคด้านขวาของแม่น้ำอีซ่าร์ ประจำมิวนิค เยอรมนี แพทย์ตรวจพบว่าท่านมีภาวะเลือดคลั่งในสมอง ต้องเอาเลือดออกจากสมองโดยด่วน แต่เนื่องจากท่านมาถึงมือหมอช้าเพราะกว่าพระจะไปพบท่านในห้อง ทำให้อาการของท่านหนัก ไม่ได้สติและไม่รับรู้อะไรเลย

 

 

คณะสงฆ์โดยพระครูวิเทศธรรมรังษี (ชน ชุติมนฺโต) เจ้าอาวาส โยมตุ่ม และคณะศิษย์ทุกคนที่ไม่ได้เอ่ยนามได้ทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยรักษาท่าน ช่วยกันรับผิดชอบค่าใช้จ่าย และอื่นๆโดยไม่ยอมถอดเครื่องช่วยหายใจและยังหวังว่าจะมีปาฎิหาริย์ในการรักษาในครั้งนี้ อาตมาได้ประสานเจ้าอาวาสวัดนครป่าหมาก กทม.ซึ่งเป็นวัดต้นสังกัด คณะญาติและคณะศิษย์ในเมืองไทยและประสานทางวัดไทยมิวนิคและคณะศิษย์ในเยอรมนีก็ยังมีความหวังลึกๆว่าท่านจะกลับมาปกติได้ ทุกคนหวังเช่นนั้น

วันอังคารที่ 5 ตุลาคม 2564 ได้รับแจ้งจากโยมตุ่มว่า หลวงพ่อสุพจน์ สีลจนฺโท ได้ถึงแก่มรณภาพด้วยอาการอันสงบ ในเวลา 13.58 น.(เวลาท้องถิ่นมิวนิค เวลาไทย 18.58 น.) สิริอายุ 72 ปีส่วนตัวอาตมานั้นหลวงพ่อสุพจน์ ท่านฝากฝีฝากใข้ไว้ด้วย ท่านยังบอกว่าถ้าท่านมรณภาพให้เอาอัฐิของท่านไปบรรจุไว้ที่โบสถวัดโคกก่องที่ท่านได้ร่วมกับอาตมานำพาศรัทธาญาติโยมไปสร้างไว้ในระหว่างที่ท่านรักษาตัวที่โรงพยาบาล Klinikum rechts der Isar  ที่มิวนิค ยังยืนยันกับท่านพระครูวิเทศธรรมรังษี โยมตุ่ม โยมญา และลูกศิษย์คนอื่นๆว่าอาตมาจะเดินทางไปที่มิวนิคเพื่อดูแลท่านร่วมกันและถ้าท่านมรณภาพก็จะไปช่วยส่งท่านเป็นครั้งสุดท้าย ยืนยันเช่นนี้มาตลอด หลวงพ่อสุพจน์ ครับวันนี้หลวงพ่อมรณภาพแล้ว ตั๋วและการเดินทางก็ยังไม่พร้อมใหนจะการกักตัวในภาวะโควิด-19 อีก อาจจะเป็นปัญหาและอุปสรรคในการเดินทางในครั้งนี้ ถ้าสมมติว่าผมเดินทางไปส่งหลวงพ่อไม่ได้ ผมก็จะเดินทางไปรับอัฐิหลวงพ่อกลับมาเมืองไทยและนำมาบรรจุไว้ที่โบสถวัดโคกก่อง จ.ร้อยเอ็ด ด้วยตัวผมเอง ตามเจตนาของหลวงพ่อทุกประการ

 

ผมทราบซึ้งในน้ำใจท่านพระครูวิเทศธรรมรังษี (ชน)โยมตุ่ม คณะสงฆ์และศิษยานุศิษย์ ผู้ที่เคารพนับถือในหลวงพ่อสุพจน์ ทุกท่าน ทุกคนในเยอรมนี นับถือเป็นอย่างยิ่ง ทราบซึ้งทึ่ท่านได้ปฎิบัติต่อหลวงพ่อสุพจน์ และรักษาหลวงพ่อจนลมหายใจสุดท้าย ไม่เคยวิตกกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายและอื่นๆเลย ขอให้ท่านหาย ทุกท่านทุกคนคิดอย่างนี้เหมือนกันหมด วันนี้ทุกคนกำลังวุ่นเรื่องการจัดการงานศพพระพุทธองค์สอนเราเรื่องไตรลักษณ์ ทุกคนเกิดมาเหมือนกันหมดไม่มีใครหนีไม่พ้นกฎเกณฑ์ข้อนี้ ขันธ์5 แตกสลายไป คุณความดียังอยู่ชั่วนิรันดร์ ไปสู่สุคติครับหลวงพ่อสุพจน์ สีลจนฺโท หลวงพ่อจะอยู่ในความทรงจำของพวกเราตลอดไป