- 06 ต.ค. 2564
"กรมอุตุนิยมวิทยา" เผยถึงการติดตามหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางมีแนวโน้มที่จะทวีกำลังแรงขึ้น พายุ หมายเลข 17 และ 18
ดร.ณัฐพล ณัฎฐสมบูรณ์ อธิบดี"กรมอุตุนิยมวิทยา" เผยถึงการติดตามหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางมีแนวโน้มที่จะทวีกำลังแรงขึ้น และเคลื่อนตัวเข้าใกล้เกาะไหหลำ ประเทศจีนว่าในวันนี้จะมีการพัฒนาเป็นดีเปรสชันและมีแนวโน้มที่จะพัฒนาเป็นพายุโซนร้อนต่อไป ซึ่ง"พายุ"ลูกนี้ หลายคนระบุว่า ชื่อ "ไลออนร็อค" "พายุ"ลูกที่ 17 แต่กรมอุตุนิยมวิทยา ยังไม่ขอให้ชื่อในตอนนี้ จะให้ชื่อได้เมื่อเป็นพายุโซนร้อน เมื่อพายุขึ้นไปทางเกาะไหหลำของจีน จากนั้นจะเคลื่อนไปที่อ่าวตังเกี๋ย ของเวียดนาม คาดว่า เมื่อไปเจอกับความกดอากาศสูง จะไปลดความแรงของ"พายุ"และจะเริ่มอ่อนกำลัง เมื่อขึ้นฝั่งที่เวียดนาม ความรุนแรงจะลดลง กลายเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ
ส่งผลกับประเทศไทย เนื่องจากนำความชื้นเข้ามา ขอให้จังหวัดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เตรียมความพร้อมเนื่องจาก จะได้รับผลกระทบมีฝนตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 11 ต.ค.64 ต่อเนื่องวันที่ 12 ต.ค. 64 รวมถึงจะมีอิทธิพลโยงเข้ากับร่องมรสุมทางตอนกลางของประเทศ ทำให้พื้นที่ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน กรุงเทพฯและปริมณฑล ได้รับอิทธิพลจากพายุลูกนี้ด้วย
"กรมอุตุนิยมวิทยา" ประสานกรมชลประทานว่าในช่วงนี้ขอให้เร่งระบายน้ำ เตรียมรับมือกับสถานการณ์ด้วย
ส่วน"พายุ"ลูกที่ 18 อยู่บริเวณเหนือเกาะลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์ "กรมอุตุนิยมวิทยา" ติดตามดูอยู่แล้ว มีแนวโน้มจะกระทบไทยตั้งแต่วันที่ 13-15 ต.ค.64 "พายุ"ลูกนี้จะดึงความชื้นในทะเลอันดามัน ทำให้"พายุ"ลูกนี้มีความแรงขึ้น ทำให้มีฝนตกหนักต่อเนื่อง แต่อาจจะสลายตัวก็ได้ ต้องติดตามการเคลื่อนตัวอย่างต่อเนื่อง
ในช่วงหลังกลางเดือน ต.ค. 64 แนวร่องมรสุมก็จะพาดผ่านลงมาทางภาคใต้ ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงข้างขึ้น น้ำทะเลค่อนข้างจะหนุนขึ้นสูง จะมีปัญหาการระบายน้ำค่อนข้างหนัก แม่น้ำหลายสายคงจะต้องระบายน้ำให้มากขึ้น ถ้ามีจังหวะระบายได้ เช่น แม่น้ำท่าจีน ยังระบายช่วยได้ไม่ดีนัก เพราะน้ำที่ต้องระบายมีอยู่ 4,000 ล้านลบ.ม. มีปริมาณมากพอสมควร ฝากประชาชนริมน้ำ ยกของขึ้นที่สูงเตรียมรับมือสถานการณ์ไว้ก่อน