- 08 ต.ค. 2564
ตำรวจ ปอท. รวบแฮกเกอร์หนุ่ม อดีตพนักงานรับจ้างพัฒนาระบบ ขโมยข้อมูลส่วนบุคคลกว่า 600,000 รายชื่อ ประกาศขายบนหน้าเว็บไซต์ หารายได้เล่นการพนันออนไลน์
เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 64 กองบัญชาการสอบสวนกลาง ร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) นำหมายค้นของศาลจังหวัดสมุทรปราการ เข้าค้นห้องพักภายในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านเทพารักษ์ จ.สมุทรปราการ พร้อมจับกุม นายวรพล ฤทธิเดช อายุ 27 ปี อดีตพนักงานบริษัทพัฒนาระบบแห่งหนึ่ง หลังมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับทางตำรวจ บก.ปอท. เมื่อวันที่ 6 ก.ย.2564
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2564 ทางบริษัทผู้เสียหายได้ตรวจพบว่ามีการประกาศบนเว็บไซต์เพื่อขายข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชน จำนวนกว่า 600,000 ราย โดยอ้างว่าเป็นข้อมูลของผู้ใช้งานบนเว็บไซต์ของบริษัท จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปอท. ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความร้องทุกข์ไว้ดำเนินคดีแล้วและได้แจ้งฝ่ายสืบสวนทำการสืบสวนร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคของบริษัทดังกล่าว จนพบร่องรอยพยานหลักฐานต่างๆ ทำให้ทราบถึงข้อมูลของคนร้าย จนนำมาสู่การตรวจค้นเพื่อยึดของกลางที่ใช้ในการกระทำความผิด และจับกุมตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการตรวจค้นห้องดังกล่าวพบ นายวรพล ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นอดีตพนักงานของบริษัทที่รับจ้างพัฒนาระบบส่วนผู้ใช้งานของบริษัทผู้เสียหาย อยู่ในพักดังกล่าว และได้ตรวจยึดสิ่งของที่น่าเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดได้แก่ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กยี่ห้อ Apple จำนวน 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่อง และสมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทย จำนวน 1 เล่ม จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปอท. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
จาการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้เข้าไปลักลอบขโมยข้อมูลของบริษัทดังกล่าว ซึ่งเป็นข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนทั่วไป จำนวนกว่า 600,000 รายชื่อ จากนั้นนำข้อมูลไปขายในอินเตอร์เน็ต โดยรับชำระผ่านช่องทางสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งผู้ต้องหาได้รับประโยชน์จากการขายข้อมูลเป็นเงินจำนวนประมาณ 300,000 บาท และได้นำเงินที่ได้ไปใช้ในการเล่นการพนันออนไลน์
พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา "เข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้น มิได้มีไว้สำหรับตน เข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน และกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบ เพื่อให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น ถูกระงับ ชะลอ ขัดขวาง หรือรบกวนจนไม่สามารถทำงานตามปกติได้" ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา