ผอ.โรงพยาบาล เตือน คลัสเตอร์โควิดลูกใหม่ โผล่ทั่วเมืองเชียงใหม่

วันที่ 8 ต.ค.64 ในโลกโซเซียลของชาวเชียงใหม่ ได้มีการแชร์ข้อความจาก เฟสบุ๊ก Woravut Kowatcharakul ซึ่งเป็นเฟสบุ๊กคส่วนตัวของ นพ.วรวุฒิ โฒวัชรกุล ผอ.โรงพยาบาลสันทราย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ โดยเขียนข้อความว่า วันที่ 6 ต.ค.2564  ว่า "เตรียมตัวให้พร้อม พายุลูกใหม่กำลังจะมา!!! ใครประมาท "โควิด" คนนั้น ไร้เดียงสาในการรับมือ บางทีอาจถึงขั้นไร้ปัญญา นำไปสู่หายนะ ของ บ้าน และเมือง ช่วงเวลาไม่กี่วัน สถานการณ์ "โควิด-19" พลิกคว่ำพุ่งตรงไปสู่จุดที่เลวร้าย

วันพฤหัสที่แล้ว มีหลายอย่างที่บอกอาการ เรากดจำนวนคนไข้ไม่ลง จำนวน คลัสเตอร์ ย่อย เกิดขึ้นจำนวนมาก ความสนใจเราเพ่งไปที่ ย่านตลาด นวรัตน์ มีร้านค้าที่ทั้งเจ้าของและลูกจ้างติดไปทั้งร้าน แปลว่า การแพร่ระบาดน่าครอบคลุมเป็นบริเวณกว้างและเป็นมาในระยะเวลาหนึ่ง 

วันนี้เราพบการติดเชื้อ ที่ขยายวงออกไป เราต้องการความร่วมมือในทุกภาคส่วนในการระงับเหตุ ถ้ายังเออระเหยลอยชาย ไม่รีบลงมือตัดไฟแต่ต้นลม คงเอากันไม่อยู่แน่นอน พวกเราสาธารณสุข และเทศบาลลงไปในพื้นที่นี้หลายรอบแล้ว แต่ละครั้งก็พบการระบาดมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม มันเกินสิ่งที่พวกเราทำได้ไปแล้ว

นอกจากย่านตลาดนวรัตน์ เราพบ คลัสเตอร์  สิบกว่าแห่งทั้งเก่าและเกิดใหม่ ที่เก่าก็ยังไม่หยุด ที่ใหม่ก็น่ากลัวการแพร่กระจาย อย่างกว้างขวาง ผู้คนทีมีส่วนร่วมใน คลัสเตอร์ เราพบว่า ต่างหย่อนมาตรการป้องกันตัวเอง หลายคนเป็นเหยื่อของแพร่เชื้อโดยเพื่อนร่วมงานตัวเอง สามี ภรรยา พ่อ แม่ ลูก ที่ไม่ป้องกันตัว และมีพฤติกรรมเสี่ยง "โควิด" 

ความจริงที่จะบอก คือ... สัปดาห์ที่แล้ว ผมนับเตียง สำหรับคนไข้อาการปานกลาง(เตียงสีเหลือง) สามร้อยกว่าเตียง เหลือเพียง 20เตียง เตียงคนไข้หนัก(เตียงสีแดง) ทั้งจังหวัดมี 50 เตียง (อ่านไม่ผิด พิมพ์ถูกต้อง) เหลือ 10 เตียง

วันนี้ผมรายงานในที่ประชุม สำนักงานสาธารณสุขเชียงใหม่ เหลือ 6เตียง!!!! เรามี เตียงสำรองให้เปิดอีก 8เตียง แต่ต้องแลกกับการปิด ICU สำหรับคนทั่วไป เพราะไม่มีกำลังคนเพียงพอ จะต้องตายกันอีกเท่าไหร่ คำถาม แทรกตัวอย่างรุนแรงเข้าในสมอง กับการเพิ่มจำนวนที่มากขึ้นทุกวัน ของ ผู้ป่วย "โควิด"  เราตั้งจุดswab ที่ศูนย์ประชุม ตรวจวันละ 300 เรามีสี่ทีมลงไปในพื้นที่มีการระบาดใหม่ เพื่อค้นหาและหยุดการกระจาย พรุ่งนี้เราต้องเพิ่มทีมอีก

เราเอาทีมมาจากไหน ก็ทีมทำงานดูแลคนไข้ทั่วไปนั่นแหละครับ ที่ดึงตัวออกจากหน้างาน ที่หนักหนาอยู่แล้ว จำใจทิ้งให้เพื่อนที่อยู่ในที่ตั้งรับงานหนักมากกว่าเดิม

พ้นจากนี้ไปคือ ฟางเส้นสุดท้ายบนหลังอูฐ อีกนิดเดียว อูฐ ตัวนี้จะหลังหัก และทุกอย่างที่เคยทำได้ จะพังพาบลงกับพื้น ระลอก อู่ฮั่น มันโจมตีเตียงเขียว ไม่สาหัส ระลอก อัลฟา เมษา มันโจมตี ทั้งเตียงเขียว และเตียงเหลือง เราปรับแผน ควบคุมโรคทุกรูปแบบ รีบปิดเมือง โชคดีที่ปิดเมืองทัน ยอคคนไข้ลดวันที่เตียงเหลืองจะหมดพอดี "โควิด" 

ระลอกนี้ มุ่งโจมตีเตียงแดง โชคร้ายเราทำทุกอย่างเต็มที่แล้วเหมือนตอนเมษา แต่นอกงานสาธารณสุขบางอย่างไม่เหมือนเดิม ที่หนักกว่านั้นคือเราเพิ่มเตียงหนึ่ง ก็เสี่ยงที่จะทำให้มีคนไข้ทั่วไปตายหนึ่งคน "โควิด" 

เรามีเวลาเหลือนิดเดียวที่จะกู้สถานการณ์กลับมาให้ได้  นับถอยหลังกับเลข 6 ได้เลยครับ ดูว่าเตียงที่ลดมันสวนทางกับคนไข้ที่เพิ่มไหม ถ้าเป็นอย่างนั้น เตรียมตัวกันให้พร้อมครับ หมดหน้าตักพวกเราชาวสาธารณสุขแล้วครับ

กลยุทธ ที่เหลือในมือตอนนี้คือ วัคซีน ที่มีในมือแม้น้อยนิด เราจะระดมฉีดให้หมดมือ ใครไม่พร้อม เราก็จะฉีดให้คนพร้อมรับ ขออภัยด้วยครับ รอไม่ได้ เวลาไม่มีแล้ว ช่วยใครได้เท่าไหร่เราจะช่วยเท่าที่เราทำได้ หวังว่าจะไม่ทิ้งให้เราโดดเดี่ยวต่อสู้เพียงลำพัง หวังจะตื่นทันว่าที่นี่เชียงใหม่ หวังว่าพรุ่งนี้ ใครที่ได้ SMS ให้ไปฉีดวัคซีนจะตรงไปฉีดวัคซีน ขอลางานสักสองชั่วโมงคงดีกว่าได้หยุดยาว เราไม่รอแล้วครับ ใครไม่มาเราก็จะฉีดให้คนที่มา สถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจที่สุด เราจะพยายามช่วยคนให้ได้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ครับ

หวังว่าพรุ่งนี้ จะหยุดร่วมกลุ่มกันกินเหล้า กินข้าวร่วมกัน ไม่มีใครไว้ใจได้ว่าจะไม่เป็น COVID ที่นั่งกินข้าวกับคุณ สุดท้ายภาวนาก่อนนอนว่าผมจะคาดผิด พรุ่งนี้ คนไข้จะลดลงตามลำดับและไม่มีการแพร่กระจายลดลง  สาธุ เพี้ยง พวกเราไม่ถอยครับสู้กันมาสองปี บ้านเกิดเมืองนอนจะปกป้องให้ถึงที่สุด มาช่วยกันฝ่ากันไปให้ได้ครับ พระคุ้มครองครับ

รายงานข่าวแจ้งว่า ตัวเลข ณ วันที่ 7ต.ค.2564 จังหวัดเชียงใหม่ พบ 3 คลัสเตอร์ใหม่ จากเดิมมี 30 คลัสเตอร์ มีผู้ป่วย ใหม่ 89 ราย สะสมระลอกเดือนเมษายน 2564 จำนวน 5,056 ราย มีผู้ป่วยวิกฤต มากถึง 51 ราย ขณะทีการฉีควัคซีนของจังหวัดเชียงใหม่ ฉีดไปแล้ว  725,358 คน จากจำนวนประชากร 1,261,223 ราย