- 09 ต.ค. 2564
กสทช. เปิดเผยรายชื่อ SMS และเบอร์มิจฉาชีพ หลอกลวงประชาชน เตือน อย่าหลงเชื่อ
นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. ร่วมกับ พล.ต.ท. กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) และผู้ประกอบกอบการโทรคมนาคม (AIS TRUE DTAC NT และ 3BB) ประชุมร่วมกันในการจัดการปัญหา SMS และโทรศัพท์หลอกลวงประชาชน โดยโอเปอเรเตอร์ทุกรายจะทำการบล็อก SMS ที่มีเนื้อหาชัดเจนว่าเป็นการ หลอกลวง เว็บพนันออนไลน์ หรือลามกอนาจาร ทันที และเร่งตรวจสอบ กำกับดูแลกันเองอย่างเคร่งครัด และให้ทุกค่ายเริ่มทำการ Backlist ผู้ส่งที่ส่งข้อความหลอกลวง หลังจากที่ได้การแชร์ข้อมูล SMS หลอกลวงระหว่างกันแล้วพบว่ามาจากผู้ส่งรายเดียวกัน
สำหรับกรณีการโทรหลอกลวงประชาชนโดยตรง สำนักงานฯ กับโอเปอเรเตอร์ทุกราย สามารถตรวจสอบการกระทำความผิดได้ชัดเจนเนื่องจากเบอร์โทรศัพท์มือถือที่มิจฉาชีพใช้สามารถตรวจสอบจากการลงทะเบียนได้ว่าใครเป็นเจ้าของเบอร์นั้น ถือเป็นหลักฐานที่ระบุต้นทางที่มา ประกอบกับข้อมูลที่ประชาชนให้ข้อมูลการหลอกลวง ส่งคลิป หรือแจ้งเบอร์โทรศัพท์เข้ามาเพื่อเป็นข้อมูล สำนักงานฯ จะนำข้อมูลทั้งหมดส่งให้กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เพื่อดำเนินการตามกฎหมายในการดำเนินคดีเอาผิดกับมิจฉาชีพต่อไป
นายไตรรัตน์ กล่าวว่า การดำเนินงานร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) จะทำให้การดำเนินการเอาผิดและดำเนินคดีกับมิจฉาชีพ สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว เพราะทาง บช.สอท. มีความเชี่ยวชาญและชำนาญในเรื่องดังกล่าว ซึ่งสำนักงาน กสทช. มองว่าแนวทางในการจัดการปัญหา SMS และโทรศัพท์หลอกลวงที่กำลังดำเนินการสามารถที่จะแก้ไขปัญหาได้ แต่ทั้งนี้ สำนักงานฯ ยังต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชนผู้ใช้บริการที่ประสบปัญหาโดยตรงในการให้ข้อมูลปัญหา SMS และโทรศัพท์หลอกลวงกับสำนักงานฯ และโอเปอเรเตอร์เพื่อจะได้แก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ลุล่วง
สำนักงานฯ ขอให้ประชาชนระมัดระวังอย่าหลงเชื่อข้อความจาก SMS โดยง่าย อย่ากรอก Username Password ที่ใช้ในการทำธุรกรรมต่างๆ กับธนาคารในลิงค์ที่ส่งมากับ SMS หรืออย่าให้ข้อมูลส่วนตัว เช่น บัตรประชาชน ไปกับคนที่โทรมาสอบถามข้อมูลทางโทรศัพท์ง่ายๆ ควรตรวจสอบที่มาของ SMS หรือหน่วยงานที่โทรศัพท์เข้ามาให้แน่ใจก่อน