นักตะกร้อทีมชาติโดนกระตุกหนวด โจรขาเทียม บุกลักทรัพย์ในรีสอร์ท

สมัยนี้ขโมยขโจรเยอะจริงๆ  แม้แต่คนดังก็โดนดีไปแล้วหลายคน อย่างกรณีล่าสุด พรชัย เค้าแก้ว นักตะกร้อทีมชาติไทย ซึ่งมาเป็นลูกเขยชาว อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ซึ่งก่อนหน้านี้ เพจ ชุมชนข่าวขอนแก่น ได้ลงเตือนภัยเอาไว้ว่า ให้ชาวบ้านระวังชายพิการรายหนึ่งที่ก่อเหตุตระเวณลักทรัพย์รีสอร์ทนักตะกร้อทีมชาติไทย

ตามรายงานระบุว่า โจรขาเทียม รายนี้ได้ซ่อนกลไกปืนไว้ในขาที่พิการดามเหล็กไว้อีกด้วย และความแสบอีกอย่างของโจรรายนี้คือ หลังจากที่ได้ขโมยทรัพย์สิน ก็ได้ถอดสายกล้องวงจรปิดของรีสอร์ทออกด้วย ซึ่งล่าสุดทาง พ.ต.อ.ยุทธนา งามชัด ผกก.สภ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น สั่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ล่าตัวโจรขาเทียมรายนี้แล้ว คาดว่า น่าจะตามหาตัวได้ไม่ยาก 

หลักฐานสุดสำคัญในคดีนี้คือ โจรขาเทียม ลืมทิ้งไม้ค้ำยันคนพิการที่ดัดแปลงเป็นปืนแก๊ปไว้ท้ายรถกระบะลูกค้าในรีสอร์ท ซึ่งทางด้านพนักงานรีสอร์ทได้เล่าเหตุการณ์ว่า ตอนก่อเหตุคนร้ายล็อคแม่กุญแจประตูห้องเหยื่อไม่ให้ออกมา จนถึงเช้าต้องเรียกเจ้าของห้องเช่าเปิดให้ จากนั้นเจ้าของรีสอร์ทจึงเดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.มัญจาคีรีในเช้าวันต่อมา

จากการตรวจสอบความเสียหายพบว่า คนร้ายได้รื้อค้นได้เงินเหรียญเก๊ะหน้ารถไปประมาณ เกือบ 200 บาท ขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดแต่พบว่าไม่สามารถเปิดดูย้อนหลังได้ แต่ด้านการสืบสวนสอบสวนนั้นมีคนเห็นเหตุการณ์และยืนยันตรงกันว่าเป็นชายพิการปั่นจักรยาน จึงได้นำเบาะแสตัวนี้ไปสู่การสืบสวนหาตัวซึ่งเป็นข้อมูลที่แคบลงมาเพราะในอำเภอมัญจาคีรีนั้นมีผู้พิการขาปั่นจักรยานไม่กี่คน

 

หลังจากที่สืบหาเบาะแสได้ เจ้าหน้าที่จึงได้พบผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งคือ นายศุภชัย เย็นใจ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 108 ม.11 ต.กุดเค้า อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ทว่า นายศุภชัยปฏิเสธว่าไม่ได้ลงมือขโมย แต่รับว่าไปแถวนั้นจริง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำประวัติเอาไว้ และจะได้เร่งสอบปากคำผู้เสียหายเพิ่มเติม รวมทั้งพยานเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และ พ.ร.บ.เกี่ยวกับอาวุธปืนต่อไป 

 

อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น นายศุภชัย กลับจะยกมือขอโทษทุกคน พร้อมบอกว่าจะไม่ทำอีก ก่อนจะยอมรับว่าลงมือขโมยเงินผู้เสียหายไปจริง เอาไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ แล้วก็กลับบ้าน ส่วนไม้ค้ำยันเป็นของตนเองจริง แต่ไม่รู้ว่าไปอยู่ตรงนั้นได้ยังไง อาจจะมีคนกลั่นแกล้งใส่ความ ก่อนที่นายศุภชัยจะเดินเข้าไปขอโทษผู้เสียหายอีกครั้ง ซึ่งผู้เสียหายก็ให้อภัยแต่เนื่องจากเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ยอมความไม่ได้ก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

ข้อมูลจาก ชุมชนข่าวขอนแก่น