- 18 ต.ค. 2564
กลุ่มแม่ชีสงสารงูท้อง เปิดบริจาค 3 แสน ไถ่ชีวิต 500 ตัว ปล่อยป่า กรมอุทยานฯ ต้องรีบเบรก ล่าสุด พศ. เร่งตรวจสอบเงินบริจาค
กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากในโลกออนไลน์ขณะนี้ เมื่อเพจเฟซบุ๊กเพจหนึ่ง ได้แชร์ข้อความเชิญชวน ไถ่ชีวิตงูท้อง 500 ตัว เพื่อให้มีชีวิตอยู่ต่อ ซึ่งจากการไถ่ชีวิตน้องๆ ในครั้งนี้ ต้องใช้งบประมาณ 301,000 บาท พร้อมจะนำงูไปปล่อยที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว จ.เชียงใหม่ ให้ร่วมบุญตามจิตศรัทธา หรือรับเจ้าภาพกองละ 10,000 บาท 30 กอง
หลังจากข่าวการ ไถ่ชีวิตงู 500 ตัว ดังกล่าวได้เผยแพร่ไปในโลกออนไลน์ ทำให้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นอย่างมาก ซึ่งส่วนใหญ่วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบ กระทั่งล่าสุด นายนุวรรต ลีลาพตะ รองหัวหน้าชุดปฎิบัติการปราบปรามการกระทำความผิดด้านสัตว์ป่า หรือ ชุดเหยี่ยวดง กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เผยถึงเรื่องนี้ว่า ได้ตรวจสอบกรณีดังกล่าวแล้ว และพบว่าผู้โพสต์รับบริจาคคือแม่ชีกลุ่มหนึ่ง
โดย แม่ชีกลุ่มดังกล่าว ให้เหตุผลในการจัดกิจกรรมนี้ขึ้นว่า พวกตนอยากช่วยเหลือฟาร์มงูแห่งหนึ่งใน จ.เชียงราย ที่ประสบปัญหาขายงูสิงไม่ได้ ไม่มีอาหารงู และเพาะเลี้ยงต่อไม่ไหว เนื่องจากพิษโควิด ซึ่งจะช่วยด้วยการเปิดรับบริจาค พร้อมจะนำงูสิง 500 ตัว ไปปล่อยที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว เพราะไม่รู้ว่าห้ามนำงูไปปล่อย
จากข้อมูลเบื้องต้นพบว่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เข้าเจรจาและทำความเข้าใจกับแม่ชีแล้ว ว่า การปล่อยงูในป่าอนุรักษ์ถือว่ามีความผิด แต่เพราะยังไม่ได้ซื้องูและยังไม่ได้นำงูไปปล่อย จึงถือว่ายังไม่ได้ทำความผิด ซึ่งทางกลุ่มแม่ชีก็เข้าใจและลบโพสต์ดังกล่าวแล้ว ส่วนเงินบริจาคที่โอนเข้ามาแล้ว ก็จะต้องจัดการต่อไป
ขระเดียวกัน สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ต้องเข้ามาตรวจสอบในเรื่องของเงินบริจาคว่ามีความผิดหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมายังไม่เคยพบการเปิดรับบริจาคเงินเพื่อปล่อยงูในภาคเหนือ แต่เคยมีสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เปิดบริจาคเงินซื้องูในบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครองมาแล้ว ซึ่งก็ได้ถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะถือว่าเป็นความผิดสำเร็จ
สำหรับ งูสิง จัดอยู่ในสัตว์ป่าคุ้มครองที่อนุญาตให้เพาะขยายพันธุ์ได้ แต่ยังมีคนบริโภคงูสิงและดื่มเลือดงูสดๆ ฟาร์มงูดังกล่าวตรวจสอบแล้วพบว่ามีใบอนุญาตถูกต้อง ส่วนที่อ้างว่ามี งูท้อง 500 ตัวนั้น น่าจะมีไม่ถึง แต่อาจจะมีประมาณ 100 ตัว ทว่า การปล่อยสัตว์ป่าทุกชนิด จะต้องศึกษาวิจัยเพื่อไม่ให้กระทบต่อสัตว์ป่าในพื้นที่ และกรมอุทยานฯ ห้ามนำสัตว์ป่าไปปล่อยในป่าอนุรักษ์อย่างเด็ดขาด