- 21 ต.ค. 2564
สาวขอนแก่นแฉ ผัวระดับผอ.หนีแต่งงานใหม่ตอนท้อง ลูกคลอดปฏิเสธลั่น ท้าตรวจดีเอ็นเอ
โดยเธอได้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า เธอเคยทำงานที่กทม.ตอนอายุ 24 ปี ได้รู้จักกับ นายพจน์ (นามสมมติ) อายุ 55 ปี ซึ่งปัจจุบันเขารับราชการในตำแหน่งผู้อำนวยศูนย์ฯ แห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น หลังจากนั้นต่างแยกย้ายไม่เจอกันอีก ซึ่งตอนนั้นเธอได้แต่งงานกับอดีตสามีอีกคนหนึ่ง จนมีลูกด้วยกัน 1 คน ก่อนเธอและอดีตสามีรายนี้จะเลิกรากันไปในเวลาต่อมา
กระทั่งปี 2560 นายพจน์ ย้ายมารับตำแหน่งผู้อำนวยการฯ พื้นที่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ซึ่งตรงกับช่วงที่ตนเลิกกับอดีตสามีคนเก่าพอดี และตนได้เปิดร้านขายอาหารเพื่อสุขภาพในเมืองขอนแก่น เมื่อ นายพจน์ ย้ายมาก็มีโอกาสไปมาหาสู่กัน ก่อน นายพจน์ ขอคบตนเป็นแฟน พร้อมนำทะเบียนหย่ากับภรรยาเก่ามาให้ดู ซึ่งญาติพี่น้องของตนเห็นว่าเขาไม่มีพันธะแล้ว อีกทั้งมีหน้าที่การงานมั่นคง น่าจะเลี้ยงดูตนได้ จึงตัดสินใจคบหากัน
จากนั้นไม่นาน นายพจน์ บอกว่าเขาอยากมีลูก ตนจึงปล่อยให้ตั้งครรภ์ตามธรรมชาติ ตอนนั้นนายพจน์ถามว่าต้องแต่งงานหรือไม่ ด้วยความที่ตนคิดว่าสิ้นเปลือง และถ้าคน 2 คน เข้าใจและรักกัน ไม่ต้องมีพิธีแต่งงานก็ได้ ช่วงที่ตนตั้งท้อง 3 เดือน เราพากันไปหาซื้อบ้านและใช้ชีวิตร่วมกัน ซึ่งนายพจน์ให้เงินใช้จ่ายเดือนละ 50,000 บาท
ขณะที่ ตนท้องได้ 3 เดือนนั้น เป็นช่วงที่ย้ายไปอยู่ในบ้านด้วยกัน ซึ่งฝ่ายหญิงเริ่มสังเกตว่าสามีเปลี่ยนไป ด้วยมีพฤติการณ์แอบคุยโทรศัพท์และมักจะเข้าไปคอมเม้นต์ใต้โพสต์ของหญิงสาวรายหนึ่ง อายุ 32 ปี ชาว จ.อุดรธานี อยู่บ่อยๆ แต่เธอก็ได้แต่เก็บความสงสัยไว้ ส่วนท้องก็โตขึ้นทุกวัน ความเปลี่ยนแปลงของสามีจึงมากขึ้น
จากนั้น นายพจน์ จึงให้ตนออกจากงาน และให้ปิดร้านอาหารแล้วอยู่บ้านเฉยๆ ตนจึงแอบค้นเฟซบุ๊กสามี กระทั่งไปเจอภาพสามีเข้าพิธีแต่งงานกับผู้หญิงคนหนึ่ง จัดงานใหญ่โตในโรงแรมที่อุดรธานี เมื่อสามีกลับมาบ้าน จึงเอาภาพให้ดูพร้อมถามว่า ทำไมถึงทำแบบนี้ สามีตอบว่าจำเป็นต้องแต่ง และไม่พูดอะไรอีกเลย
ส่วนตนไม่ได้โวยวายเพราะกำลังท้อง พร้อมทั้งอดกลั้นใช้ชีวิตอยู่คนเดียว รอจนลูกคลอด ซึ่งสามีก็เซ็นรับรองบุตรในฐานะพ่อของลูก แต่ชีวิตไม่ราบรื่นอย่างที่คิด เนื่องจากสามีไม่มาสนใจดูแล ไม่ให้เงินทองใช้จ่ายเหมือนเดิม จากนั้นในเดือนสิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา นายพจน์ ไล่ตนออกจากบ้านพร้อมกับลูก จึงต้องไปอยู่บ้านกับแม่และพี่สาว
พร้อมกันนี้ นายพจน์ ไม่เคยโทร. หาและไม่มาดูแลอีกเลย ตนจึงรวบรวมหลักฐานไปปรึกษาทนายความ และนำข้อความที่ถูก นายพจน์ ต่อว่าเข้าแจ้งความกับตำรวจ รวมถึงอธิบดีกรมทางหลวง เพื่อขอความเป็นธรรมให้ลูก ให้ นายพจน์ มารับผิดชอบลูก แต่ถูกปฏิเสธว่าไม่ใช่ลูกตัวเอง หนำซ้ำยังกล่าวหาว่าเป็นลูกชู้
ตามคำกล่าวอ้างของ นายพจน์ ระบุยืนยันว่า มีลูกไม่ได้ เพราะเป็นหมัน และท้าทายตนด้วยถ้อยคำรุนแรงว่าถ้าไม่ได้สำส่อนก็ให้ไปตรวจดีเอ็นเอ แถมยังบอกว่าจบคือจบ บารมีเรามันต่างกัน ตนไม่เข้าใจว่าถ้าเป็นหมันแล้วตอนคลอดไปเซ็นรับรองบุตรทำไม ทั้งนี้ยังมีคลิปเสียงที่ นายพจน์ พูดจาลักษณะข่มขู่พี่สาวของ น.ส.เก๋ อีกด้วย
เนื้อหาในคลิปดังกล่าวระบุว่า ของพวก...ยังมีเป้าให้ล่ออีกเยอะแยะ ถ้าเล่นสกปรกคิดให้ดีๆ แม่ก็แก่แล้ว ลูกก็ยังเล็ก อย่าคิดว่าจะทำอะไรชั่วๆ ได้อย่างที่คิด หาชู้ให้น้องสาว แล้วยังจะมีหน้ามากรรโชกทรัพย์อีก ระวังตัวไว้แล้วกัน ขณะที่พี่สาวก็หัวเราะกับคำพูดของอีกฝ่าย และหลอกล่อให้พูดออกมาให้หมด