พ่อพระสุนิตร ฟาดหมอปลาใส่ความ จะเคี้ยวอะไรต้องให้สุด

พ่อพระสุนิตร ฟาดหมอปลาใส่ความ จะเคี้ยวอะไรต้องให้สุดเดี๋ยวติดคอ หรือ "ไปให้สุด ขุดให้ถึง ถ้าไม่มีน้ำ ถึงหยุด " อย่าพึ่งด่วนตัดสิน

นายประสิทธิ์ พันธุ์พรม อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นพ่อพระอาจารย์สุนิตร ที่กำลังได้รับความสนใจจากสังคม ในกรณีพระอาจารย์สุนิตร ได้สร้างโลงแก้วให้ลูกศิษย์หญิงคนหนึ่งซึ่งอ้างว่าจะละสังขารในวันที่ 30 ตุลาคม 2564 แต่ลูกชายได้มาขอร้องให้หมอปลาช่วย เพราะรู้สึกเป็นห่วงกับเรื่องนี้ โดยนอกจากแม่แล้วก็มีน้องสาวที่เชื่อและบอกว่าจะละสังขารตามในเดือนมีนาคม 2565 จนกลายเป็นข่าวดัง

 

พ่อพระสุนิตร ฟาดหมอปลาใส่ความ จะเคี้ยวอะไรต้องให้สุด

โดยพ่อของอดีตพระอาจารย์สุนิตรเปิดเผยว่า พระสุนิตร เรียนจบวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์บางเขน เรียนจบแล้วไปทำงานเป็นเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติห้วยขาแข้ง 6 ปี 

ส่วนสาเหตุการลาออกมาบวชนั้น คิดว่าเคยหลงป่า 3 วัน 3 คืน แล้วไปพบกับผีบังบด พระสุนิตร เล่าให้ตนพังว่า กลุ่มลาดตะเวนรักษาป่าจะมีกลุ่มละ 6 คน ส่วนกลุ่มพระสุนิตร มี 3 คน ซึ่งกลุ่ม 6 คนไปลาดตระเวนก่อน เมื่อไปถึงแหล่งน้ำที่สัตว์ป่าจะลงมากิน เมื่อไปพบโขลงช้างก็จะถูกช้างไล่ทำร้าย ต่างวิ่งหนีแตกกระเจิงเพื่อเอาตัวรอด เมื่อรอดชีวิตออกมาได้ก็จะขอลาออกกันไป 

วันต่อมาถึงเวรกลุ่มพระสุนิตร กับเพื่อน 3 คน เข้าไปลาดตระเวนก็พบกับช้างที่ถูกกลุ่มลาดตระเวนก่อนหน้ายิงปืนไล่ได้เข้ามาไล่ทำร้ายกลุ่มพระสุนิตร ทำให้ต่างวิ่งหนีเข้าไปหลบอยู่ในโขดหินจนปลอดภัย แต่หาทางกลับไม่ได้ 3 วัน 3 คืน จนมืดค่ำพระสุนิตร จึงนำดอกไม้มาไหว้ขอขมา เจ้าป่าเจ้าเขาขอให้เปิดทางกลับที่พัก 

 

พระอาจารย์สุนิตร

 

เมื่อไหว้เสร็จก็ได้ยินเสียงผู้หญิงสาวจำนวนหลายคนพูดคุยกันมาคิดว่าเป็นกลุ่มคนจะกลับบ้าน จึงเดินไปดักทางบอกหลงทาง กลุ่มผู้หญิงจึงพากลับบ้านด้วย ซึ่งเป็นบ้านมี 10 กว่าคน หลังเป็นหมู่บ้านเลื่อนลอย ชายผู้นำหมู่บ้านบอกว่าหลงป่าตื่นเช้าจะพาไปส่ง พอรุ่งเช้าก็พามาส่งที่ปากทาง พอหันกลับไปดูก็ไม่เห็นพวกมาส่งอีกเลย จึงคิดว่าคนพวกนั้นเป็นผีบังบด  

เมื่อรอดชีวิตจากการหลงป่ามาได้ ลูกชายก็ศึกษาเรื่องธรรม ทำงานครบ 6 ปีก็ลาออก กลับมาบ้านมาบอกพ่อแม่ว่าจะบวช ทีแรกคิดว่าลูกจะบวช 1 พรรษา แล้วสึกออกมารับราชการ หวังให้ลูกเลี้ยงดูพ่อแม่ เพราะเป็นเพียงชาวนา จึงพาไปบวชที่วัดอนาลโยภูค้อ ต.ผาสุก อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี จากนั้นก็ไม่ยอมสึกอีกเลย และยังไม่มีครอบครัว

ตนอยากให้ลูกลาสึก จึงบอกกับเพื่อนที่เรียนด้วยกันว่า ถ้าใครทำให้พระสึกได้ จะไปขอเป็นสะใภ้ ที่ย้ายมาจำพรรษาที่สำนักสงฆ์ซำป่าหัน แห่งนี้ได้ 2 ปี เพราะต้องการอยู่ใกล้ชิดพ่อแม่ เพื่อจะได้ดูแลพ่อแม่  

 

พ่อพระอาจารย์สุนิตร

 

ส่วนเรื่องโลงแก้ว ตนก็ได้รู้จักและเห็นผู้หญิงคนดังกล่าว มาปฏิบัติธรรมได้ 3 เดือน เป็นคนเรียบร้อย นิสัยดี มีศักดิ์ศรี อัธยาศัยดี มีฐานะ เป็นคนมีสติ มานอนที่สำนักสงฆ์ กับเพื่อน 4-5 คนรวมทั้งแม่ชี 2 คนพอมีข่าวออกไป รู้สึกว่าข่าวเพี้ยน ลักษณะใส่ร้ายลูก ทำให้ไม่พอใจขอให้นำเสนอข่าวตรงไปตรงมา อย่าไปหนักฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดในอนาคตตนไม่อยากให้พระสึกออกมา อยากให้ออกจากสำนักสงฆ์แห่งนี้ 

นอกจากนี้ ฝากถึงหมอปลา ว่า อย่าใส่ความให้สืบดูทั้งสองทาง เหมือนคำที่ว่า "จะเคี้ยวอะไร ให้เคี้ยวละเอียด อย่าพึ่งกลืน เดี๋ยวมันติดคอ" หรือ "ไปให้สุด ขุดให้ถึง ถ้าไม่มีน้ำ ถึงหยุด " อย่าพึ่งด่วนตัดสิน 

ด้านพระอาจารย์สุนิตร ล่าสุดถูกให้สิ้นจากความเป็นพระ และได้หลบหนีไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

 

พ่อพระสุนิตร ฟาดหมอปลาใส่ความ จะเคี้ยวอะไรต้องให้สุด