- 31 ต.ค. 2564
พระมหาไพรวัลย์ ออกโรงเเจง ร่ำไห้ในไลฟ์สด ชี้ใครที่มองเรื่องยศตำแหน่งในวงการคณะสงฆ์เป็นแค่เรื่องยศตำแหน่ง สะท้อนความตื้นเขินของตัวเอง
กรณี พระมหาไพรวัลย์ (พระมหาไพรวัลย์ วรวฺณโณ) ออกมาไลฟ์สดเปิดใจพร้อมกับหลั่งน้ำตา ประกาศเตรียมสึกหรือลาสิกขา สาเหตุพระราชปัญญาสุธี (อุทัย ญาโณทโย) รักษาการเจ้าอาวาสวัดสร้อยทองอาจไม่ได้รับเเต่งตั้งขึ้นตำแหน่งเจ้าอาวาส ยืนยันไม่ไปอยู่วัดอื่น รวมทั้งหากเจ้าอาวาสรูปใหม่ไม่ใช่พระที่วัดสร้อยทองก็คงไม่อยู่ในสมณเพศต่อไปแน่นอน
อย่างไรก็ตามล่าสุด พระมหาไพรวัลย์ หรือ พส.ไพรวัลย์ ออกมาชี้แจงกรณีดังกล่าว ผ่านเฟซบุ๊ก พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ โดยระบุข้อความ ว่า อาตมาไม่รู้ว่าเป็นบทความของใครนะ แต่อาตมาขออนุญาตแลกเปลี่ยน ประเด็นแรก คืออาตมาไม่ได้ร่ำไห้เพราะผิดหวังเสียใจเรื่องยศตำแหน่ง ใครก็ตามที่พูดแบบนี้แสดงว่า แม้แต่ความอดทนที่จะนั่งฟังไลฟ์สดที่เป็นประเด็นของอาตมาจนจบ ก็ยังทำไม่ได้เลย เมื่อฟังไม่จบ ก็เป็นแบบที่เห็น คือนั่งเทียนเขียนวิจารณ์ไปเอง ทั้งๆ ที่ข้อเท็จจริงเป็นอย่างคนละเรื่องกัน
ประเด็นที่สอง ใครก็ตามที่มองเรื่องยศตำแหน่งในวงการคณะสงฆ์เป็นแค่เรื่องยศตำแหน่ง คนๆ นั้นสะท้อนความตื้นเขินของตัวเองที่มีต่อความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการปกครองคณะสงฆ์เป็นอย่างมาก ที่อาตมากล่าวเช่นนี้ เพราะยศตำแหน่งในทางคณะสงฆ์มันมิใช่เพียงแค่ยศตำแหน่ง มันไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่มันผูกพันกับอำนาจในการปกครอง อำนาจในการให้คุณและให้โทษกับผู้ที่อยู่ใต้อาณัติของยศตำแหน่งนั้นๆ อย่างแยกไม่ออก
ที่สำคัญที่สุด แม้เพียงตำแหน่งในฐานะของเจ้าอาวาส หากมิได้พระภิกษุผู้ที่เป็นรัตตัญญู หรือมีพรหมวิหารธรรมอย่างมากพอในการจัดการดูแล ไม่ได้ผู้ซึ่งมีที่มาที่ชอบธรรมหรือเป็นที่ยอมรับนับถือของสังฆะทั้งหมดในอาราม
พระภิกษุผู้นั้น ถึงที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมภาร ย่อมจะตกอยู่ภายใต้ภยาคติ หรือไม่ก็ลุแก่อำนาจอย่างง่ายๆ ย่อมจะใช้อำนาจนั้น รังแกพระลูกวัดไม่ในทางใดก็ทางหนึ่งก็ได้ ถึงที่ผิดน้อยก็อาจให้ผิดมาก หรือถึงที่ไม่ชอบพอก็อาจไล่พ้นไปจากอาราม เรื่องเหล่านี้มีปรากฎให้เห็นอยู่มากแต่เก่าก่อนทีเดียว
อาตมาดีใจที่ชาวพุทธในสังคมไทยส่วนใหญ่ เข้าใจหลักธรรมของพระพุทธศาสนากันอย่างลึกซึ้งดีเหลือเกิน แต่อาตมาเศร้าใจอย่างหนึ่ง เศร้าใจที่คนพุทธจำนวนไม่น้อยไร้เดียงสาต่อหลักการปกครองในพระราชบัญญัติแห่งคณะสงฆ์ไทย