- 01 พ.ย. 2564
ตำรวจสอบสวนกลาง โดย บก.ป. รวบสาวแสบหัวใส ปลอมตัวหลอกผู้ประกอบการขอสมัครงาน เสียหายรวมมากกว่าสิบรายพบมี 8 หมายจับ
ข่าววันนี้ 1 พ.ย. 64 ที่ กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ด้วยในช่วงสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อน สภาวะเศรษฐกิจโลก และประเทศไทยอยู่ในภาวะวิกฤตชาวบ้านทำมาหากินอย่างสุจริต กลับถูกคนร้ายที่อาศัยวิกฤตินี้ อ้างตัวเป็นคนงานต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย หลอกลวงผู้ว่าจ้าง ผู้รับเหมาก่อสร้าง โดยเข้าแฝงตัวไปในกลุ่มจัดหางาน
เมื่อพบเห็นผู้ว่าจ้างที่กำลังหาคนงาน คนร้ายรายนี้ได้สวมรอยเป็นแรงงานโทรไปติดต่อผู้รับเหมา ที่ต้องการแรงงานว่าจะมาทำงานด้วย ผู้รับเหมาจึงหลงเชื่อคิดว่าเป็นแรงงานที่กำลังหางานอยู่จริงๆ
เมื่อผู้รับเหมาหลงเชื่อ คนร้ายจะให้เหตุผลว่าขอเบิกค่ารถล่วงหน้า เพื่อเดินทางจากจังหวัดทางภาคเหนือไปพบ และเนื่องจากผู้รับเหมากลัวที่จะไม่มีคนงานมาทำงานให้เสร็จงานตามวันเวลาที่นัดกับลูกค้าไว้จึงหลงเชื่อโอนเงินค่ารถไปให้ โดยคิดค่าใช้จ่ายนับตามรายหัวของลูกจ้างที่จะมาทำงานกับตน เช่น ผู้รับเหมาประกาศหาคนงาน 10 คน ก็ต้องโอนเงินค่ารถไปให้คนร้ายหัวละ 500 บาท หรือ ประมาณ 5,000 บาท จากนั้น คนร้ายจะโทรแจ้งผู้รับเหมาว่ากำลังจะขึ้นรถ ทิ้งห่างช่วงระยะเวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง คนร้ายจะโทรหาผู้รับเหมาโดยแอบอ้างตนว่าเป็นพนักงานบริการบนรถบัสโดยสารที่มีลูกจ้างต่างด้าวโดยสารมา แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไว้ พร้อมให้เหตุผลว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ยอมคุยสายด้วย ให้ประสานผ่านคนร้ายที่แอบอ้างว่าเป็นพนักงานบริการบนรถบัสแทน
เมื่อผู้รับเหมาคล้อยตาม คนร้ายจะหลอกให้ผู้รับเหมาจ่ายเงินเพื่อปล่อยตัว หัวละ 5,000 - 8,000 บาท ผู้รับเหมาบางรายรู้ว่าถูกหลอกจึงหยุดการโอน แต่ในบางรายก็หลงเชื่อโอนเงินไปให้คนร้ายเพิ่มอีกเพื่อให้ได้คนมาทำงาน
จนต่อมาผู้รับเหมารู้ว่าถูกหลอกก็ตอนที่คนร้ายปิดเบอร์หลบหนีไป จากการกระทำผิดดังกล่าว มีการโพสต์แจ้งเตือนตามเพจเฟซบุ๊หต่างๆ จำนวนมาก แต่คนร้ายก็จะอาศัยความชำนาญในการหลอกลวงคน และปรับเปลี่ยนวิธีการไปเรื่อยๆ ทำให้มีผู้เสียหายที่เกิดจากกรณีนี้หลายราย
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2.กองบังคับการปราบปรามได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า คนร้ายคือ น.ส.รวินกาญณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี ก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง ซึ่งถูกร้องทุกข์ดำเนินคดีในหลายท้องที่ ถูกออกหมายจับในความผิดฐาน "ฉ้อโกง" จำนวน 8 หมายด้วยกัน
พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2.บก.ป. จึงสั่งการให้สืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหารายนี้ เนื่องจากสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนทั่วไปจำนวนมาก เคยถูกดำเนินคดีแล้วแต่ไม่หลาบจำ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.บ้านธิ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2.บก.ป. สืบทราบได้ว่า ผู้ต้องหารายนี้หลบมาซ่อนตัวอยู่ที่บ้านเกิดของตน ม.10 บ้านแสนตอ ต.ห้วยยาบ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน เจ้าหน้าที่จึงนำหมายค้นของศาลจังหวัดลำพูนเข้าทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบตัว นางรวินกาญจน์ฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการควบคุมตัว แจ้งสิทธิ แจ้งข้อกล่าวหา และนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ตำรวจสอบสวนกลาง ขอเตือนภัยประชาชน โปรดระวังมิจฉาชีพที่ใช้ประโยชน์จากความเดือดร้อนในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ของประชาชน หลอกลวงให้เหยื่อ ผู้ประกอบการ โอนเงินไปยังบัญชีธนาคารต่างๆ ดังนั้นควรตรวจสอบบัญชีธนาคารปลายทางก่อนโอนทุกครั้ง
ตามหมายจับ
1.หมายจับศาลจังหวัดลำพูน ที่ จ.79/2564ลงวันที่ 2 เม.ย.64
2.หมายจับศาลจังหวัดลำพูน ที่ จ.80/2564ลงวันที่ 2 เม.ย.64
3.หมายจับศาลจังหวัดลำพูน ที่ จ.81/2564ลงวันที่ 2 เม.ย.64
4.หมายจับศาลจังหวัดลำพูน ที่ จ.82 /2564 ลงวันที่ 2 เม.ย.64
5.หมายจับศาลแขวงทุ่งสง ที่ จ.53/2564ลงวันที่ 7 ก.ย.64
6.หมายจับศาลแขวงลพบุรี ที่ 241/2564 ลงวันที่ 12 ธ.ค2562
7.หมายจับศาลจังหวัดระนอง ที่ จ.183/2564 ลงวันที่ 17 ธ.ค.2563
8.หมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ที่ จ.262/2564 ลงวันที่ 29 เม.ย.2564 ข้อหาฉ้อโกง