- 04 พ.ย. 2564
โรงเรียนดังเชียงใหม่ รีบโต้รัว หลังโดนแฉ ครูแย่งวัคซีนไฟเซอร์ อ้างเหตุผลที่ได้ฉีดแทนนักเรียน
สืบเนื่องจากที่ก่อนหน้านี้ โรงเรียนดังในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่โดนแฉว่า ครูแย่งนักเรียนฉีดไฟเซอร์ โดยอ้างว่า วัคซีนที่ได้ฉีดนั้นเป็นวัคซีนเหลือ นักเรียนที่ไม่ทันตามเวลาที่นัดไว้ กระทั่งได้ทราบว่าโรงเรียนที่เกิดเหตุคือ โรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย ซึ่งตามข้อมูลระบุว่า โรงเรียนดังกล่าวโดนเปิดโปงว่า ครูอมวัคซีนไฟเซอร์นักเรียน #ครูเรแย่งวัคซีนเด็ก จี้สอบ! ครูเชียงใหม่แย่งไฟเซอร์เด็ก เป็นเหตุให้ผู้ปกครอง ครู นักเรียน ตลอดจนศิษย์เก่า ได้สอบถามข้อเท็จจริงกับทางโรงเรียนเป็นจำนวนมาก
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด นางจันทร์จิรา ศิริพัฒน์ ผอ.โรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้ออกจดหมายชี้แจงถึงเหตุการณ์นี้ โดยระบุว่า "ตามที่ทางโรงเรียนได้รับหนังสือจากศึกษาธิการจังหวัดลงวันที่ 11 ตุลาคม 2564 ขอความ ร่วมมือให้โรงเรียนรวบรวมและจัดทำข้อมูลนักเรียนที่มีอายุ 12 - 18 ปี และมีความประสงค์ที่จะฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ส่งสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเชียงใหม่ ภายในวันที่ 25 กันยายน 2564
ต่อมาโรงเรียนได้ดำเนินการรวบรวมข้อมูลทั้งหมด และจัดส่งรายชื่อนักเรียนที่ประสงค์ฉีดวัคซีน จำนวน 747 คนให้กับทางสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเชียงใหม่ ตามหนังสือของโรงเรียน ลงวันที่ 23 กันยายน 2564 ในวันที่ 20 ตุลาคม 2564 ทางโรงเรียนได้รับแจ้งกำหนดการฉีดวัคซีนโควิดของนักเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย จากผู้ประสานงานจาก รพ.หางดง ทางไลน์กลุ่มประสานศูนย์ฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 วันที่ 28 ตุลาคม 2564 และเข็มที่ 2 วันที่ 18 พฤศจิกายน 2564
ในวันที่ 28 ตุลาคม 2564 โรงเรียนได้นัดหมายนักเรียนจำนวน 747 คน ไปที่ศูนย์ฉีดวัคซีนพรอมเมนาดา อ.เมืองเชียงใหม่ โดยทางโรงเรียนได้จัดส่งครู และบุคลากรเพื่อดูแลความเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกให้กับนักเรียนการฉีดวัคซีนแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 - มัธยมศึกษาปีที่ 3 เวลา 13.00 - 14.30 น. และ มัธยมศึกษาปีที่ 4 - มัธยมศึกษาปีที่ 6 เวลา 14.30 - 16.00 น. โดยในเวลาประมาณ 15.30 น. นักเรียนจำนวน 747 คน ได้รับวัคซีนตามโควตาครบทุกคน
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลได้แจ้งกับครูผู้ประสานงานว่า ขณะนี้มีวัคซีนเหลือจำนวน 19 โดส และให้ทางโรงเรียนติดต่อนักเรียนที่มีคิวฉีดวัคซีนรอบสองที่มีความพร้อมและประสงค์จะฉีดวัคซีน มารับการฉีดวัคซีนที่เหลือ เพื่อไม่ให้วัคซีนเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ โดยให้เข้ามาฉีดก่อนเวลา 16.00 น.
ทางโรงเรียนได้ตามนักเรียนมาทำการฉีดได้ก่อนเวลา 16.00 น. จำนวน 13 คน หลังจากนั้นในเวลา 16.05 น. ทางโรงพยาบาลได้เก็บอุปกรณ์และเตรียมเดินทางกลับ และ ทางโรงพยาบาลได้เสนอฉีดโดสที่เหลือให้กับครูและบุคลากรของโรงเรียนจำนวน 4 โดส หลังจากฉีดวัคซีนให้กับครูและบุคลากร ทีมงานโรงพยาบาลจึงเดินทางกลับทันที คงเหลือทีมเฝ้าสังเกตอาการหลังฉีดวัคซีนจำนวน 3 คน
อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่าได้มีนักเรียนรอบที่สองที่เรียกไป เพิ่งเดินทางมาถึงศูนย์ฉีดเวลา 16.12 น. ซึ่งเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกลับไปแล้ว จึงไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ซึ่งนอกเหนืออำนาจในการควบคุมใดๆ ของทางโรงเรียน จึงขอเรียนชี้แจงมายังทุกท่านที่เกี่ยวข้องให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อความเข้าใจอันดีต่อกัน"