พระครูอมรธรรมทัต เจ้าอาวาสดังเชียงใหม่แจ้งความเอาผิด "นัท นิสามณี"

จากกรณีดราม่าบิวตี้บล็อกเกอร์ชื่อดัง นัท นิสามณี แต่งตัวเป็นพระพุทธเจ้าในวันฮาโลวีน ล่าสุดวันที่ 4 พ.ย. 2564 ที่ผ่านมา พระครูอมรธรรมทัต เจ้าอาวาสวัดพันอ้น ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่  ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนัท นิสามณี โดยมีข้อความเรื่องแจ้งความดำเนินคดีผู้ดูหมิ่นเหยียดหยามพระพุทธศาสนา
 

โดยพระครูอมรธรรมทัต เจ้าอาวาสวัดพันอ้น ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ประธานศูนย์เผยแผ่ธรรมจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำเอกสารเข้าร้องทุกข์ พร้อมแจงความดำเนินคดีกับไอดอลคนดังที่แต่งตัวเป็นพระพุทธเจ้า โดยได้ยืนหนังสือ ต่อ พ.ต.อ.ภูวนารถ ดวงดี ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ โดยมีข้อความเรื่อง แจ้งความดำเนินคดีผู้ดูหมิ่นเหยียดหยามพระพุทธศาสนา โดยมีรูปภาพถ่ายเอกสารการดูหมิ่นเหยียดหยามพระพุทธเจ้า จำนวน 12 แผ่น การแสดงความคิดเห็นทางสื่อคอมพิวเตอร์ จำนวน7 แผ่น โดยระบุรายละเอียดด้วยปรากฏฎมีผู้ไม่หวังดีต่อพระพุทธศาสนา คือนางสาวนิสามณี (สงวนนามสกุล) ชื่อเล่น นัท แต่งกายเลียนแบบพระพุทธเจ้า ในเทศกาลฮาโลวีน เป็นการลบหลู่เหยียดหยามพระพุทธเจ้า อันเป็นที่เคารพสักการบูชาสูงสุดของชาวพุทธทุกคน มีเจตนาดูหมิ่นเหยียดหยามพระพุทธศาสนาอย่างชัดเจน เข้าข่ายผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 208

 

 

สำหรับ มาตรา 208 ระบุไว้ว่า "มาตรา208 ผู้ใดแต่งกายหรือใช้เครื่องหมายที่แสดงว่าเป็นภิกษุ สามเณร นักพรตหรือนักบวชในศาสนาใดโดยมิชอบ เพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนเป็นบุคคลเช่นว่านั้นต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ"
 

และยังมีข้อฝ่าฝืนพระราชบัญญัติ ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์อย่างชัดเจนการกระทำของนางสาวนิสามณี เลิศวรพงษ์ เป็นการทำร้ายจิตใจของชาวพุทธทุกคนที่มีความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างร้ายแรงจึงมาจอแจ้งความดำเนินคดีกับ นางสาวนิสามณี ให้ถึงที่สุด เพื่อป้องกันมิให้ผู้อื่นใดเอาเป็นเยี่ยงอย่างต่อไป ซึงทาง ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ติดประชุมจึงให้ทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นตัวแทนรับมอบ และแจ้งให้ทาง พระครูอมรธรรมทัต จะนำเสนอทาง ผกก.ฯรับทราบ

โดยพระครูอมรธรรมทัต เปิดเผยว่าเรื่องนี้จะปล่อยปละละเลยไปปไม่ได้ ในฐานะที่ตนเป็นพระภิกษุสงฆ์และ ประธานศูนย์เผยแผ่ธรรมจังหวัดเชียงใหม่ เห็นว่าจะปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปไม่ได้ ซึ่งในขณะนี้รอแต่เพียงทางตำรวจจะตรวจสอบอย่างไรก็พร้อมจะเข้าไปให้ปากคำและดำเนินการเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด

ด้านตำรวจเผยว่าได้รับเรื่องแล้วและได้สั่งการให้ทาง รอง ผกก.สอบสวน รับไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งเมื่อทำการตรวจสอบพบข้อมูลและเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมาย ก็จะทำหนังสือเรียกตัวผู้เกี่ยวในเรื่องนี้ทั้งพระครูอมรทัต และผู้ที่ถูกกล่าวหาในเรื่องนี้มาดำเนินการตามขั้นตอน