- 14 พ.ย. 2564
“หนุ่ม กรรชัย” ก็ได้เปิดใจสัมภาษณ์ทั้งทีมงานและนักแสดงจากภาพยนตร์เรื่อง "ร่างทรง" ในรายการ “โหนกระแส” หลังกวาดรายได้กว่า 100 ล้าน พร้อมมีเซอร์ไพรส์กลางรายการ ทำเอาขนลุกไปตามๆ กัน
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์สุดหลอน ที่กวาดรายได้ทั้งประเทศกว่า 100 ล้าน อย่าง “ร่างทรง” ที่ล่าสุด “หนุ่ม กรรชัย” ก็ได้เปิดใจสัมภาษณ์ทั้งทีมงานและนักแสดงในรายการ “โหนกระแส” พร้อมทั้งมีเซอร์ไพรส์กลางรายการ ทำเอาขนลุกไปตามๆ กัน
ล่าสุดทำรายได้เท่าไหร่ ?
โต้ง : เกิน 90 ล้าน ตอนแรกหวังน้อยมากเพราะมันดีเลย์ไปเยอะ แต่ตอนนี้เกินคาดแล้วครับ
ตอนแรกมีความกังวลใจเพราะก่อนหน้านี้มีหนังผีเถื่อนออกมา แต่ปรากกฏว่าออกมาแล้วตูมจริง ๆ ทำไมถึงทำร่างทรง ?
โต้ง : จริง ๆ โอกาสนี้คือคนเกาหลีชื่อ นาฮงจิน เขาเป็นผู้กำกับระดับโลก ผมชื่นชมงานเขามาก อยู่ ๆ เขาก็ชวนผมมาว่าอยากร่วมงานด้วย โดยเขาจะเป็นโปรดิวเซอร์ โยนเรื่องมาให้เรื่องหนึ่ง ตอนแรกเขาเขียนเป็นหนังเกาหลีก่อน เรื่องย่อ 30 หน้า เกี่ยวกับร่างทรงเกาหลี แต่เขาอยากให้ทำเป็นหนังไทย ผมก็คิดว่าจะเกี่ยวกันได้ยังไง ก็ลองอ่านและศึกษาดูสารคดีร่างทรงเกาหลีและมาศึกษาของไทย ปรากฏว่ามีลักษณะที่เชื่อมโยงกันเยอะมาก
ถ้าดูจะรู้ว่าเป็นเรื่องของมิ้ง ผู้หญิงคนหนึ่งที่มีอาการแปลก ๆ เหมือนมีเทพจะมาเข้าหรืออะไรมาเข้ากันแน่ อาการตรงนี้ที่เหมือนกันเด๊ะเลย แล้วสืบทอดในผู้หญิงในตระกูลเท่านั้นก็มีเหมือนกัน
แสดงว่าเกาหลีก็เชื่อเรื่องร่างทรงมาแต่ไหนแต่ไร ?
โต้ง : เชื่อมาก ถ้าย้อนดูข่าวจะมีข่าวประธานาธิบดีเขาที่เชื่อเรื่องร่างทรงด้วย เอาเงินไปให้ร่างทรง
ร่างทรงเกาหลีกับไทยเหมือนกันไหม เวลาจะเข้าต้องสั่น ?
โต้ง : ผมว่าแล้วแต่คนเลย ไทยก็เหมือนกัน ผมไปเจอเยอะมาก ทางเหนือทางอีสาน บางคนไม่สั่นเลย บางคนก็สั่น มันแล้วแต่
คุณศึกษาเรื่องนี้เยอะแค่ไหน ?
โต้ง : ตอนเขาส่งเรื่องมาผมไม่รู้อะไรเลย ผมบอกว่าไม่มั่นใจเลย ขอเวลาศึกษาก่อน ไม่คิดเลยว่าต้องใช้เวลาเป็นปีเพราะมันยากมาก
ต้องไปคุยกับร่างทรงเหมือนในหนังไหม ?
โต้ง : ใช่ เจอมาทุกรูปแบบ ผมเพิ่งรู้ว่าเมืองไทยมีวิทยานิพนธ์ที่ศึกษาเรื่องนี้เยอะมาก มีมิติเยอะมาก แล้วไปเจอโปรดิวเซอร์ที่เขาทำรายการแนวหมอปลา เขาเจอร่างทรงในชีวิตมาน่าจะเกินพันคน เขาเลยแนะนำว่าไปจังหวัดไหนจะเจอใครบ้าง ผมไปภาคเหนือ อีสาน ไม่ได้เลือกใต้เพราะรู้สึกว่ามันเกี่ยวกับจีน ๆ กินเจเยอะ ไปมาหมด เจอแบบที่เรารู้สึกโอ้โห โม้เหลือเกิน กับคนที่ดูน่าเชื่อถือมาก ๆ มีทุกรูปแบบจริง ๆ
ตอนที่ดูคิดว่าเอาร่างทรงจริง ๆ มาเล่น คัดเลือกนักแสดงยังไง ?
โต้ง : พอเรื่องมันเอื้ออยู่แล้ว เราเห็นของเกาหลีตอนแรกเรื่องมันแรงมากและเรื่องน่าสนใจ พอเราพูดว่าจะสำรวจชีวิตร่างทรงในอีสาน เราก็คิดในใจว่าเราจะได้ทำหนังในทิศทางใหม่ ๆ ไม่เอาดาราดังเล่นเลย เป็นเป้าหมายตั้งแต่แรก ต้องเอาคนที่คนดูไม่คุ้นหน้า อาจเคยเล่นมาบ้าง แต่ต้องไม่รู้จักในวงกว้าง เพื่อให้เชื่อจริง ๆ ว่าคนเหล่านี้คือครอบครัวร่างทรงในอีสาน
อย่างพี่เอี้ยง ทำไมเลือกเขามา ?
โต้ง : ตอนเราเขียนบท เรารู้สึกบทยากมาก เราเลยคิดในใจว่าหรือต้องใช้บริการนักแสดงแวดวงละครเวที เราก็เลยเรียกมาแคสติ้งเต็มไปหมด แต่เห็นแคสพี่เอี้ยง โอ้โห คนนี้คือป้านิ่มเลย ไม่ต้องเลือกแล้ว
ทำไมต้องเป็นญดา ?
โต้ง : จริง ๆ แคสหลายรอบมาก เขาส่งเทปมาน่าจะรอบที่ 4 - 5 ไม่เจอเลย ผมรู้สึกว่าใครจะเล่นได้ บทยากมาก แต่ทันทีที่เจอเทปญดา ซีนที่ยากที่สุด คือ ซีนผีเข้า เราไม่ได้ใช้ซีจี เขาลดน้ำหนัก 10 กิโล ในเวลาสั้นมาก จากความกังวลมาก ๆ ของผม กลายเป็นโอ้โห ได้มากกว่าที่คิดอีก
รูปปั้นคือรูปอะไร ?
โต้ง : เทพย่าบาหยัน เทพที่เราสมมติขึ้นมา แต่เราเอาจากข้อมูลที่เราไปเจอร่างทรงเยอะมาก ในหมู่บ้านร่างทรงเขาก็มีรูปเคารพอยู่ในหมู่บ้าน
น้องญดา ทำไมรับเล่นเรื่องนี้ ?
ญดา : ตั้งแต่ไปแคสครั้งแรก ก็รู้แล้วว่าบทมิ้งโคตรยากเลย แต่หนูชอบความท้าทาย อยากหาทางที่ทำยังไงให้สำเร็จให้ได้ ตัดสินใจไม่ยากเลย อยากร่วมงานกับพี่โต้งด้วย เป็นผู้กำกับที่หนูติดตามมาตั้งนานแล้ว และเล่นทุกฉากเองหมด
มีคนเมาท์ว่าใช้สแตนอินเล่น เสียใจไหมที่เขาว่าอย่างนั้น ?
ต้ง : ไม่จริง
ญดา : ไม่เสียใจ เพราะเขาก็คงไม่รู้ค่ะ
ก่อนเล่นต้องเรียนการแสดงไหม ?
ญดา : เรียนเยอะมากเลยค่ะ หนูได้เรียนกับครูเงาะ พี่โต้งด้วย และนักแสดงทุกคน ก่อนไปก็ต้องดูวิดีโอเรฟเฟอร์เรนซ์ต่าง ๆ ดูคนที่เขามีอาการผีเข้า คนทรงเยอะมาก ทั้งในไทย ต่างประเทศ วาติกัน พี่โต้งเอาวิดีโอพวกนี้ให้ศึกษาก่อนแล้วเอาไปตีความอีกทีค่ะ
ฝั่งพี่เอี้ยง เรื่องนี้เล่นแล้วยังไง ?
เอี้ยง : หนังทั้งหมดที่ออกมา ยกเครดิตให้พี่โต้งนะคะ เรามีพื้นฐานการแสดงมาก่อนรวมถึงละครเวทีอะไรก็ตาม แต่ทั้งหมดทั้งมวล คนปรุงให้รสดีขนาดนี้ และภูมิใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งกับหนังที่ประสบความสำเร็จ ทำให้เกิดกระแสการพูดคุยหลายประเด็น เยอะมาก มันฟินมากตอนนี้ (หัวเราะ)
ได้รางวัลแล้ว ?
โต้ง : ได้รางวัลหนังยอดเยี่ยมที่เทศกาลปูชอน และได้ที่สเปนอีก 2 เทศกาล
กำลังเป็นตัวแทนไทยเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ ?
โต้ง : ใช่ครับ (หัวเราะ) ผมว่าการเลือกหนังแนวนี้ หนังที่เหมือนเอาฟุตเทสมาตัด เกิดชะตากรรมกับทีมงาน ส่งไปออสการ์ ผมว่าฝรั่งมีเหวอนะ ถ้าข่าวออกไปคนน่าจะสนใจว่าประเทศนี้เลือกส่งหนังแนวนี้ไป ผมว่าเป็นทางเลือกที่กล้าหาญและบ้าบิ่นดีครับ
เขาบอกคนเกาหลี ถึงขั้นให้เปิดไฟในโรงหนังนั่งดู ?
โต้ง : ตอนหนังฉายรอบสื่อ มีนักวิจารณ์เขียนหลายคนว่าเขาเหนื่อยมาก กับการบีบคั้นไม่หยุด แล้วเขากลัว เขาใช้คำว่าอยากวิ่งออกจากโรง มันเลยเกิดกระแสออกมาและมีคนเรียกร้อง เขาเลยเปิดรอบเปิดไฟสำหรับคนกลัวหนังผี ที่ไทยก็มีจัดไปแล้ว
ส่วนตัวเชื่อเรื่องราวร่างทรงไหม ?
เอี้ยง : ส่วนตัวเชื่อคนที่เป็นร่างทรงจริง ๆ มันสัมผัสได้ อันไหนโอเวอร์ไปก็ขอใช้วิจารณญาณ
ญดา : ได้ยินมาตลอดตั้งแต่เด็กและเห็นเองบ้าง มันก็มีคำถามกับตัวเองตลอดว่าจริงไหม จนถึงตอนนี้ก็ไม่ได้ 100 ปอร์เซ็นต์กับเรื่องนี้ แต่มีความเชื่อที่เพิ่มมากขึ้นเพราะประสบการณ์หลากหลายค่ะ
ทำให้ดูต่อหน้าได้ไหม มันยากไหม ?
ญดา : ต้องเชื่อว่าไม่ใช่เราแล้วค่ะ
โต้ง : ตอนเห็นตัวแคส ผมกับทีมพูดกันเลยว่าน้องไปอยู่ไหนมา ควรจะดังนานแล้ว เพราะดีดนิ้วเขาก็สามารถเล่นได้เลย
ทั้งนี้ ระหว่างดำเนินรายการ จู่ ๆ ญดา หนึ่งในนักแสดง ก็ได้ตบโต๊ะเสียงดังกลางรายการ พร้อมมีอาการเหมือนร่างทรง ทำเอาขนลุกกันทั้งรายการ แทบแยกไม่ออกแล้วว่าจริงหรือเล่นกันแน่
ญดา : มึงอยากจะกูนักใช่ไหมไอ้หนุ่ม มึงชอบโหนกระแสนักใช่ไหม กูมาเจอมึงแล้วนี่ไง
เอี้ยง : มึงเป็นไผ ก็ถามว่ามึงเป็นไผ
ญดา : (หัวเราะ) กูคือย่าบาหยันไง
กรรชัย : นี่เข้าทรงจริง ๆ หรือเปล่า เหมือนมาก