- 23 พ.ย. 2564
เอส บางแค ประกาศศักดาขาใหญ่ฝั่งธนฯ ลั่นเป็นลูกอดีตตำรวจ ก่อนลั่นกระสุนยิงใส่หนุ่มพนักงานส่งของกลางตลาด จนบาดเจ็บ ไม่หนำใจใช้ปืนตบซ้ำ จนเหยื่อเลือดสาด เย็บอีก 3 เข็ม
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 22 พ.ย.นายโกมินทร์ วนาดอน อายุ 45 ปี พนักงานส่งของตลาดกิตติ ย่านบางแค ได้ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว หลังเกรงว่าตนเองจะไม่ได้รับความเป็นธรรมและกลัวว่าเรื่องจะเงียบหลังถูกนายกนกหรืออุ้ม เข็มหนู อายุ 40 ปีพร้อมพวกใช้อาวุธปืนยิงจนได้รับบาดเจ็บเมื่อเวลาประมาณ 02.00น.ที่ผ่านมานายโกมินทร์ ผู้เสียหายเปิดเผยว่าตนเองกับนายกนกหรืออุ้มมีปากเสียงทะเลาะกันเรื่องที่จอดรถจักรยานยนต์ที่ตลาดเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ก่อนจะมีวินจักรยานยนต์ละแวกใกล้เคียงมาห้ามปรามจนเลิกลาแยกย้ายกันไป โดยนายอุ้มพูดทิ้งท้ายว่า พี่วินขอได้เฉพาะวันนี้เท่านั้นนะ
จนกระทั่งวันนี้เมื่อประมาณ 02.00 น. นายอุ้มได้ขับจักรยานยนต์มาเจอกับตนเองที่ตลาดกิตติอีกครั้ง ตนเองพยายามจะพูดคุยแต่ระหว่างนั้น นายเอสซึ่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์เพื่อนมาถึงที่เกิดเหตุ พร้อมกับชักอาวุธปืนลงมากระหน่ำยิงถึง3นัด ทำให้ตนเองได้รับบาดเจ็บถูกอาวุธปืนยิง บริเวณนิ้วก้อยเท้าข้างซ้ายกระดูกแตก หลังยิงครบ3นัด นายเอส ยังได้นำกระบอกปืนมาตบที่หูซ้ายได้รับบาดเจ็บต้องเย็บถึง3 เข็ม พร้อมทั้งประกาศว่า "กูเอสบางแคไม่กลัวใคร ตำรวจก็เคยมีเรื่องมาแล้ว" จากนั้นทั้งสามคนได้ขับรถหลบหนีไป
นายโกมินทร์ เปิดเผยต่อว่าการกระทำดังกล่าวทำให้ตนเองหวาดกลัวเพราะยังต้องทำมาหากินที่ตลาด อีกทั้งลูกก็ยังอายุน้อยจึงรู้สึกไม่มีความปลอดภัยในชีวิตเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามตนได้เดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สน.เพชรเกษม เป็นที่เรียบร้อยแล้วรายงานข่าวแจ้งว่าระหว่างที่ผู้เสียหายไปแจ้งความดำเนินคดีนั้น ได้มีชายลักษณะคล้ายคนในเครื่องแบบพยายามเข้ามาเจรจาขอไกล่เกลี่ยและเยียวยาด้วยเงิน แต่ส่วนทางคดีก็ให้ดำเนินการไปกฎหมาย
จากการตรวจสอบทราบว่านายเอส ผู้ก่อเหตุนั้นเป็นลูกชายอดีตนายตำรวจย่านฝั่งธนบุรี ก่อนหน้านี้เคยไปก่อเหตุยิงผู้อื่นลักษณะคล้ายกันแบบนี้มาแล้ว โดยเฉพาะพฤติกรรมเวลามึนเมา มักมีนิสัยเกเรไม่กลัวใคร แต่หลังก่อเหตุก็จะมีการเจรจาเพื่อไม่ให้ถูกดำเนินคดี ซึ่งคาดว่าหลังก่อเหตุนายเอสน่าจะหลบหนีไปอยู่ที่จังหวัดเพชรบุรี
ด้าน พ.ต.อ.วิสิษฐ์ วัฒนพงษ์พิทักษ์ ผกก.สน.เพชรเกษม กล่าวว่าสำหรับคดีดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดเพื่อดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุตามกฎหมายอย่างแน่นอน เนื่องจากคดีดังกล่าวไม่สามารถที่จะยอมความกันได้ เพราะมีพยานหลักฐานชัดเจนโดยเฉพาะกล้องวงจรปิดว่าเป็นคดีอุกอาจ ส่วนข่าวที่บอกว่ามีการเคลียร์กับผู้เสียหายเพื่อให้เรื่องยุติดังกล่าว ตนเองยังไม่ตรวจสอบเรื่องนี้แต่จะขอทำคดีหลักให้เรียบร้อยก่อน