- 24 พ.ย. 2564
แพะคดีฉกเพชร 15 ล้าน พ่อค้าไก่ย่าง ชาวนครพนม ติดคุกฟรี เกือบ 8 เดือน เดินหน้าฟ้องศาลเรียกร้องค่าเสียหายกับ เจ๊ร้านเพชร ปัดรับเงินไม่กี่หมื่นชดเชย
เมื่อเวลา 18.00น.วันที่ 23 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องขอให้เปิดเผยเรื่องราวคดีความคืบหน้าของ พ่อค้าขายไก่ย่าง ชาวนครพนม ที่ตกเป็นข่าวโด่งดัง เมื่อเดือน ธ.ค.2559 จนถูกติดคุกในเรือนจำนานถึง 7 เดือน 10 วัน กระทั่งต่อมาภรรยาได้เดินทางไปร้องขอความยุติธรรมกับกระทรวงยุติธรรมให้ช่วยเหลือ จนศาลมีคำสั่งยกฟ้องเมื่อปี 2561ที่ผ่านมา
ในคดีถูก เจ๊เจ้าของร้านเพชร อายุ 65ปี แห่งหนึ่งกล่าวหาว่าตนได้ติดต่อขอซื้อเพชรและได้ฉกหรือวิ่งราวเพชร มูลค่า 15.8 ล้านบาท ออกไปจาก บ้านเช่าหรูหลังหนึ่งย่านบางเสาธงในพื้นที่กรุงเทพฯ
นายพิสิษฐ์ สุวรรณพิมพ์ เปิดเผยว่า หลังถูกกล่าวหาว่าฉกเพชรหรือวิ่งราวเพชรมูลค่า 15 ล้านบาทไป จนทำให้ติดคุกนาน เกือบ 8 เดือน ก่อนศาลจะยกฟ้องในช่วงเวลาต่อมา
ล่าสุดวันที่ 23 พย.2564 เวลา 09.00 น.ตนพร้อมภรรยา จึงไปขึ้นศาลอาญาธนบุรี กรุงเทพฯอีกครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนี้ในฐานะเป็นฝ่าย โจทก์ หรือผู้เสียหาย ในการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย กลับทางเจ๊เจ้าของร้านเพชรที่เป็นผู้กล่าวหาตนว่าเป็นผู้ฉกเพชรไปเราก็ขอเรียกร้องความเป็นธรรมกับสิ่งที่เขาทำกับเรา ที่ให้เราได้รับการจองจำ และความลำบาก สูญเสียทุกอย่างไปต่อมาเราได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเราเป็นผู้บริสุทธิ์ คือเขากล่าวหาเราฉกเพชรเขามูลค่า 15 ล้าน 8 แสนบาท
การที่ต่อสู้คดีของเรา ต้องใช้เงิน ภรรยาเดินทางไป-กลับ นครพนม-กรุงเทพฯ เสียค่าเดินทาง ค่าอยู่ ค่ากิน ไหนค่าใช้จ่ายส่วนตัวผมที่ผ่านมาอยู่ในเรือนจำอีก ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเป็นเงินเป็นทองทั้งนั้น ร้านไก่ย่างก็ไม่ได้ขายต้องกู้หนี้ยืมสินเขามาอีกถ้าเราพิสูจน์ตัวเองว่าบริสุทธิ์แล้วตอนนี้ คือเราอยากจะขอให้เขาพิสูจน์ของตัวเขาเองบ้าง ว่าที่เขาทำกับเรา กล่าวหาเราฉกเพชรเขา 15 ล้านบาทไป เราได้พิสูจน์ตัวเองว่าเราบริสุทธิ์แล้ว ที่นี้เราจะขอฟ้องกลับคืนเขาบ้างแล้ว จะให้เข้ามาเคลียร์มาคุยอะไรกับเรา ความทุกข์ ความลำบาก ความยุ่งยากมันเกิดขึ้นมากับเราไหนจะชื่อเสียงเรา ที่ทำมามันก็หายหมดแล้ว ลูกเราจะเรียนหนังสือก็อายเพื่อนฝูง เราก็จะลุกขึ้นมาสู้ให้ถึงที่สุด จะมาขอเยียวยาเราหลักหมื่น ทางเราไม่ขอรับไว้หรอก คงปล่อยให้เป็นขั้นตอนของศาลตัดสินคดีความไป ก็สู้กันไป ไหนๆมันเสียหายไปแล้ว ก็ขอสู้คดีให้ถึงที่สุดกันไป ในครั้งนี้