- 25 พ.ย. 2564
"เสธ.หนุน"ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ทรัพย์สิน 74 ล้าน ซื้อบ้านใหม่ต้นปี 64 ภริยา เพิ่งถอย ปอร์เช่คูเป้ เมื่อเดือนมีนาฯ
เปิดทรัพย์สิน เสธ.หนุน 74ล้าน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงหลายราย รายชื่อที่น่าสนใจ พ.ท.หนุน ศันสนาคม กรณีเข้ารับตำแหน่ง ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เมื่อวันที่ 27 ส.ค. 2564
พ.ท.หนุน แจ้งมีบุตรยังไม่บรรลุนิติภาวะ 1 ราย มีทรัพย์สิน 22,968,218 บาท ได้แก่ เงินฝาก 452,439 บาท เงินลงทุน 2,859,518 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 18 ล้านบาท (บ้าน บริเวณเขตบางเขต กทม. ได้มาเมื่อ 29 ม.ค. 2562 โดยปลูกในที่ดินของบิดา) สิทธิและสัมปทาน 741,730 บาท ทรัพย์สินอื่น (ราคาตั้งแต่สองแสนบาทขึ้นไป) 914,500 บาท มีหนี้สิน 4 ล้านบาท (เป็นหนี้สินกับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ทำสัญญาเมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2564)
มีรายได้รวมต่อปีโดยประมาณ 2,906,164 บาท แบ่งเป็น รายได้จากสำนักงานสลากฯ 1,335,864 บาท เบี้ยหวัดกองทัพบก 426,300 บาท รับให้จากบิดา 1 แสบาท รับให้จากผู้บังคับบัญชา 14,400 บาท มีรายจ่ายรวม 1,230,360 บาท
ส่วนนางสมฤทัย ศันสนาคม คู่สมรส มีทรัพย์สิน 50,179,987 บาท ได้แก่ เงินสด 3.5 แสนบาท เงินฝาก 19,161,678 บาท เงินลงทุน 2,177,681 บาท เงินให้กู้ยืม 3.7 ล้านบาท (ให้อังคณา วารีรักษ์ ยืม โดยไม่มีสัญญา มีแต่ใบยอมรับหนี้) ที่ดิน 1.5 ล้านบาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 13 ล้านบาท ยานพาหนะ 9,988,900 บาท (มีปอร์เช่คูเป้ 1 คัน ได้มาเมื่อวันที่ 9 มี.ค. 2564 มูลค่า 7,088,900 บาท) สิทธิและสัมปทาน 150,428 บาท ทรัพย์สินอื่น 151,300 บาท มีหนี้สิน 5,881,200 บาท
มีรายได้รวมต่อปีโดยประมาณ 8,162,413 บาท แบ่งเป็น รายได้จากบริษัท เอเชีย บรอดคาสติ้งเซอร์วิสฯ 725,330 บาท บริษัท ชฎาชทัศฯ 4.2 ล้านบาท มิสซิสเฮลท์แคร์ฯ 1,780,000 บาท บริษัท สุวรรณบุตร มีเดียฯ 1,357,083 บาท มีรายจ่ายรวม 1,600,730 บาท
ส่วนบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีทรัพย์สิน 868,660 บาท ได้แก่ เงินฝาก 609,470 บาท สิทธิและสัมปทาน 259,290 บาท ไม่มีรายได้ มีรายจ่ายรวม 289,352 บาท เป็นค่าเบี้ยประกันชีวิต 259,352 บาท ค่าเล่าเรียน 30,000 บาท
เบ็ดเสร็จทั้งหมดมีทรัพย์สินทั้งสิ้น 74,016,866 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 9,881,200 บาท
ทรัพย์สินที่น่าสนใจ พ.ท.หนุน แจ้งถือครองกองทุน และหลักทรัพย์หลายรายการ โดยมีหุ้นในบริษัท บอนด์ เรโวลูชั่น จำกัด จำนวน 1,000 หุ้น มูลค่า 1 ล้านบาท และบริษัท เคเอชที ไฟร์อาร์มส์ จำกัด 33,500 หุ้น มูลค่า 1 ล้านบาท ส่วนนางหฤทัย ถือหุ้นศูนย์อุปกรณ์ผู้ป่วยมิสซิสเฮลท์แคร์ (สต็อกของและอุปกรณ์สำนักงาน) มูลค่า 1.5 ล้านบาท
นอกจากนี้ “เสธ.หนุน” ยังแจ้งถือครองพระห้อยคอ 6 รายการ จำวันเดือนปีที่ได้มาไม่ได้ และไม่ทราบมูลค่า เช่นเดียวกับนางหฤทัย แจ้งถือครองพระห้อยคอ 8 รายการ ไม่ทราบมูลค่า
ประวัติโดยสังเขป พ.ท.หนุน หรือ “เสธ.หนุน” เป็นบุตรชายของ พล.อ.นิยม ศันสนาคม อดีตผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.) โดยเรียนจบเตรียมทหาร รุ่นที่ 31 (ตท.31) รุ่นเดียวกับ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ “บิ๊กโจ๊ก”
ภายหลังการรัฐประหารโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พ.ท.หนุน เข้ามามีบทบาท “ล้างมาเฟีย” ในสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยเคยเป็นคณะกรรมการ (บอร์ด) สลากกินแบ่งรัฐบาล ในยุคที่มี พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ (ยศขณะนั้น) เป็นประธานบอร์ด ส่วนงานในกองทัพ ระหว่างปี 2559-2560 พ.ท.หนุน เป็นฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา กองทัพบก ต่อมาปี 2561-2564 เป็นรอง ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ก่อนจะขึ้นดำรงตำแหน่ง ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
ส่วนนางสมฤทัย คู่สมรส ปัจจุบันเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท สุวรรณบุตร มีเดีย จำกัด เป็นผู้จัดการศูนย์อุปกรณ์ผู้ป่วย มิสซิสต์เฮลท์แคร์ ผู้จัดการฝ่ายขายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ บริษัท เอเชีย บรอดคาสติ้งเซอร์วิส (ไทยแลนด์) จำกัด และกรรมการบริษํท เคเอชทีไอร์ฟาร์มส์ จำกัด