- 01 ธ.ค. 2564
หลังจาก พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ ออกมาประกาศจะลาสิกขา และได้มีข้อถกเถียงกันอยู่ว่า ทรัพย์สินของ พระมหาไพรวัลย์ จะตกเป็นของวัดหรือไม่
จากกรณีพระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ ออกมาประกาศจะลาสิกขา โดยได้กำหนดวันลาสิกขาในช่วงเดือนธันวาคม ระหว่างวันที่ 4 -5 ธันวาคม ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง พระมหาไพรวัลย์ ได้ทำการเปลี่ยนชื่อเฟซบุ๊กส่วนตัว เป็น "ไพรวัลย์ วรรณบุตร" พร้อมทั้งเตรียมการเก็บข้าวของส่วนตัวออกจากวัดสร้อยทอง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
พระมหาไพรวัลย์
โดยต่อมา นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุ ว่า "ทรัพย์สินของ พส.ที่ได้มาในขณะอยู่ในสมุณเพศ ต้องตกเป็นของวัด เมื่อพระรูปนั้นลาสิกขา เว้นแต่จำหน่ายจ่ายโอนไปก่อนที่จะสละสมณเพศ"
พระมหาไพรวัลย์
อันนั้นคือกรณี ภิกษุ มรณะภาพ และไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ ทรัพย์สินส่วนตัวของพระที่มรณะภาพจึงตกเป็นของวัด
แต่กรณีสึกแล้ว (ไม่ได้มรณะภาพ) ทรัพย์ส่วนตัว ก็ยังคงเป็นทรัพย์ส่วนตัวของอดีตพระภิกษุนะครับ
2. ทรัพย์สินที่มีหรือได้มาในระหว่างอยู่ในสมณเพศ เช่น มีญาติโยมศรัทธาถวายเงินทองให้ ก็ยังคงเป็นทรัพย์สินส่วนตัวของพระภิกษุอยู่
เพียงแต่หากพระภิกษุมรณภาพให้ตกเป็นสมบัติของวัดที่เป็นภูมิลำเนาของพระภิกษุ (วัดที่จำพรรษา) เว้นแต่พระภิกษุจะได้ทำพินัยกรรมไว้ก่อนมรณภาพยกให้ใคร หรือได้จำหน่ายไปก่อนมรณภาพ ก็จะไม่ตกเป็นของวัด