มวยถูกคู่! เทียบหมัดต่อหมัด "มหาไพรวัลย์ vs ศรีสุวรรณ" ใครด่าเจ็บกว่า?

โดยยกแรกและจุดกำเนิดนั้น เริ่มมาจาก พระมหาไพรวัลย์ วรวัณโณ ณเวลานั้น นี้ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า “ขอบคุณพระศาสนาที่มอบทุกอย่างให้แก่เด็กบ้านนอกคนหนึ่งคนนี้ตลอดเวลา 18 ปีที่ผ่านมา ขอบคุณข้าวน้ำจากศรัทธาของญาติโยม” สื่อในทำนองว่าเตรียมตัวลาสิกขา 

ซึ่งทางด้านของ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้โพสต์ข้อความกล่าวถึง“ทรัพย์สินของ พส.ที่ได้มาในขณะอยู่ในสมณเพศ ต้องตกเป็นของวัดเมื่อพระรูปนั้นลาสิกขา เว้นแต่จำหน่ายจ่ายโอนไปก่อนที่จะสละสมณเพศ” และได้โพสต์ข้อความต่อมาอีกว่า “เราจะสนับสนุนให้คนมาบวชพระเพื่อแสวงหาทรัพย์สินเงินทอง เมื่อได้มากอักโขแล้วก็ลาสิกขา นำทรัพย์นั้นติดตัวไปเสวยสุขได้หรือ?”

ก่อนที่ทางด้านของ พระมหาไพรวัลย์ได้โต้กลับโดยระบุข้อความว่า “ลุงศรีแกจะโง่แล้วขยัน หรือโง่แล้วอวดฉลาดคนเดียว อาตมาไม่มีปัญหานะ แต่ทำไมช่อง 7 ต้องพลอยบื้อ พลอยบ้าจี้ตามลุงแกด้วย แล้วสื่อแบบนี้เหรอที่สังคมจะฝากความประเทืองทางปัญญาอะไรด้วยได้ (ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1623) มาตรา 1623 ทรัพย์สินของพระภิกษุที่ได้มาในระหว่างเวลาที่อยู่ในสมณเพศนั้น เมื่อพระภิกษุนั้นถึงแก่มรณภาพให้ตกเป็นสมบัติของวัดที่เป็นภูมิลำเนาของพระภิกษุนั้น เว้นไว้แต่พระภิกษุนั้นจะได้จำหน่ายไปในระหว่างชีวิตหรือโดยพินัยกรรม ปล. เรียนกฎหมายมาเพื่อที่จะโง่ขนาดนี้ เสียเวลาเรียนเพื่ออะไร

ต่อมาในยกที่สอง เรียกว่าเป็นครั้งแรกที่ทั้งคู่นั้นไม่ได้ด่ากันผ่านโลกโซเซียลแต่ด่ากันผ่านโทรศัพท์ในรายการโหนกระแส โดยในช่วงหนึ่งนั้น อดีตพระมหาไพรวัลย์ ถูกถามถึงข้อความดังกล่าวของนายศรีสุวรรณ โดย ทิดไพรวัลย์ ตอบกลับว่า อยากฝากให้ลุงศรี มอบพรนี้ให้ตัวเองด้วย เพราะปากของลุงศรีก็ใช่ย่อยเหมือนกัน ที่ฟ้องคนอื่นส่งเดช โบราณท่านพูดประโยคหนึ่งไว้ตนอยากฝากถึงลุงศรีว่า ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว ถ้าฟ้องคนอื่นมั่วซั่ว สักวันหนึ่งก็ต้องถูกฟ้องแน่นอน

ซึ่งทางด้านของ นายศรีสุววรณก็ได้ตอบกลับหลังจากถูก หนุ่ม กรรชัย ถามว่าติดใจอะไรกับทิดไพรวัลย์ไหม ซึ่งทางด้านนายศรีสุวรรณได้ตอบว่า ผมกับท่านไพรวัลย์มีเรื่องขัดใจกันตรงไหนนั้น ยืนยันว่าไม่มี เพียงแต่ว่ามุมมองอาจจะไม่สอดคล้องต้องกันเท่านั้น เมื่อท่านสึกมาแล้วก็แสดงความยินดีด้วย คิดว่าท่านคงจะใช้ความรู้ความสามารถที่ได้ร่ำเรียน เปรียญธรรมมามากมาย เอามาปรับใช้กับชีวิต เอาไปช่วยเหลือสังคมในฐานะฆราวาสได้อย่างเต็มที่ ซึ่งก็คงจะเป็นคุณูปการมหาศาลกับสังคมไทย เพราะจะไม่มีเงื่อนไขอะไรที่คอยกำหนดให้ท่านจะพูดไม่ได้ ยินดีด้วยซ้ำไปที่ท่านสึกมา จะได้ไม่ถูกใครมาค่อนแคะ ตำหนิติเตียน

ส่วนยกที่สามยกล่าสุดนั้น เฟซบุ๊กของศรีสุวรรณ ได้กล่าวข้อความมีเนื้อหาว่า "แต่งตัวจี๊ดควงสาวรับงานพรีเซ็นเตอร์ ส่วนแม่นอนป่วยเป็นมะเร็งอยู่โรงพยาบาล ไหนบอกสึกออกมาจะดูแลแม่ แต่กลับโชว์โง่ ระริกระรี้ดาคนเต็มโซเชียล" นั้นไปเชื่อมโยงกับภาพที่ "ทิดไพรวัลย์" ได้ถ่ายรูปคู่กับสาวสวย 2 คน ก่อนหน้านี้ 

ซึ่งในเวลาต่อมา นทวิตเตอร์ของ "ทิดไพรวัลย์" (@phirwaly3) ก็ได้เคลื่อนไหวด้วยการเขียนข้อความพร้อมภาพประกอบว่า "เขาแค่ขอXถ่ายรูป ก็ดิ้นเหมือนหมาโดนน้ำร้อนสาด ไม่รู้สี่ รู้แปดอะไร ก็เสร่อแซะไปเรื่อย แซะแบบไม่มีสมองผมหงอกบนหัว ไม่ช่วยอะไร "

แน่นอนว่าหลังจากคนดัง "ศรีสุวรรณ และ ทิดไพรวัลย์" ได้ออกมาเคลื่อนไหวด้วยการเขียนข้อความลงโลกออนไลน์ ทำให้ชาวเน็ตจับโยงว่า ทั้งคู่ได้เปิดศึกปล่อยวลีลีเดือดสวนใส่กันแบบจัดเต็ม ด้วยการหยิบภาพ ขอความทั้ง 2 มากอบในภาพเดียวกัน 

แต่ทั้งนี้ "ทิดไพรวัลย์ และ ศรีสุวรรณ" ก็ไม่ได้เอ่ย หรือเขียนชื่อถึงกันและกันแต่อย่างใด เพียงแต่ชาวเน็ตได้จับโยงประติดประต่อเรื่องราวกันเท่านั้น ต้องจ่อไมค์สัมภาษณ์ถามหาความจริงกับทั้งคู่อีกครั้งว่าหมายถึง หรือสื่อไปยังใคร หรือ พุ่งเป้าไปตามที่เหล่าชาวเน็ตจับโยงกัน 

โดยต้องบอกว่านี่เป็นเพียงตัวอย่างคร่าวๆ สำหรับการฟาดฝีปากใส่กันระหว่าง "มหาไพรวัลย์ vs ศรีสุวรรณ" ที่ต้องบอกว่าในอนาคตนั้นก็คงจะยังมีการตอบโต้กันไปมาแบบนี้ออกมาอย่างต่อเนื่องให้ชาวเน็ตได้ติดตามกัน