- 10 ธ.ค. 2564
แจงแล้ว หลังสะพัดข่าวแอปเป๋าตัง เปิดให้กู้ยืมเงินฉุกเฉิน 5000 อนุมัติไวภายใน 3 นาที ข่าวจริงหรือข่าวปลอม ไทยนิวส์มีคำตอบให้ที่นี่
จากกรณีที่มีกระแสข่าว แอปเป๋าตัง เปิดให้ยืมเงินฉุกเฉิน 5000 โดยผู้ที่โหลดแอปและติดตั้ง แอปเป๋าตัง ของธนาคารกรุงไทย สามารถกู้เงินอนุมัติภายใน 3 นาที เรื่องดังกล่าวเป็นข่าวจริงหรือข่าวปลอม
ล่าสุด พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันข้อมูลว่าเป็นข่าวปลอม
ย้อนไปมีข่าวสารปรากฏในช่องทางต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง แอปพลิเคชันเป๋าตัง เปิดให้ยืมเงินฉุกเฉิน 5 พันบาท อนุมัติไวใน 3 นาที ถัดมาทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย ธนาคารกรุงไทย พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
รวมถึงกรณีส่งต่อข่าวสารเรื่องการเงินโดยระบุเป็นการสอนวิธียืมเงินสดจากแอปพลิเคชันเป๋าตัง จำนวน 5,000 บาท โดยใช้ระยะเวลาอนุมัติภายใน 3 นาที ทางธนาคารกรุงไทย ได้ชี้แจงว่าธนาคารไม่มีนโยบายให้สินเชื่อ หรือยืมเงินสดผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังแต่อย่างใด
โดยแอปพลิเคชันเป๋าตัง เป็นแพลตฟอร์มด้านการเงินระบบเปิด สามารถใช้บริการแม้ไม่มีบัญชีเงินฝากของธนาคารกรุงไทย ให้บริการครอบคลุมทั้งบริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ( E-Wallet) รองรับการทำธุรกรรมโอนเงิน เติมเงิน และชำระค่าสินค้าและบริการ บริการกระเป๋าเงินอิเลทรอนิกส์ของภาครัฐ (G-Wallet)
รองรับการทำนโยบายของภาครัฐ ทั้งโครงการคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน เราชนะ ม.33 เรารักกัน บริการกระเป๋าสุขภาพ (Health Wallet) ตรวจเช็คสิทธิด้านสุขภาพผ่านเป๋าตัง บริการด้านการลงทุนพันธบัตรของรัฐผ่านวอลเล็ต สบม. รวมถึงบริการเกี่ยวกับกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ที่ช่วยให้การจัดการบัญชีกยศ.สะดวก และรวดเร็วสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://krungthai.com/th/personal
ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ทั้งนี้หากพบ SMS อีเมล หรือ LINE ที่มีลิงก์แอบอ้างเป็นธนาคาร หรือพบเหตุผิดปกติ สามารถแจ้งผ่าน Facebook Fanpage Krungthai Care และ Krungthai Contact Center โทร 02-111-1111 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ธนาคารกรุงไทยไม่มีนโยบายให้สินเชื่อ หรือยืมเงินสดผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังแต่อย่างใด
รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน
5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์.
ขอบคุณ ศูนย์ต้านข่าวปลอม