- 12 ธ.ค. 2564
คุณป้า เจ้าของร้านผลไม้ วัย 74 ปี วอนคนร้ายนำเงินมาคืน หลังทำทีมาซื้อของจำนวนมาก ก่อนฉกเงินทอน กว่า 9,700 บาท หลบหนี
ภาพวงจรปิดจับภาพคนร้ายทำทีซื้อของ และจ่ายเงินตามปกติ จากนั้นจะเห็นว่าเจ้าของร้านนั่งลงเพื่อหาของในตู้ คนร้ายทำทีเข้ามานั่งคุยก่อนจะฉวยโอกาสเอื้อมมือไปหยิบเงินทอนจากในกระเป๋าที่เจ้าของร้านวางไว้ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนจะเดินออกนอกร้านไป ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นที่ร้านค้าแห่งหนึ่ง ภายในซอยรามคำแหง 160 ถนนราษฎร์พัฒนา แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร
นางกอบกุล ใยอั้น อายุ 74 ปี เจ้าของร้านผลไม้ เล่าว่า เมื่อช่วงเช้าเวลาประมาณ 05.00 น. ของวันที่ 30 พฤศจิกายน ขณะที่กำลังเตรียมจัดร้านเพื่อเปิดขายของตามปกติ โดยตนอยู่หน้าร้านคนเดียว ส่วนญาติๆ กำลังวุ่นเตรียมอาหารอยู่หลังร้าน ต่อมามีผู้หญิง อายุประมาณ 40 - 50 ปี เข้ามาซื้อผลไม้ เป็นกล้วย 1 หวี และขนมไทย รวมเป็นเงิน 20 บาท แต่ให้เงินเป็นแบงก์ 500 บาท เมื่อตนรับเงินมาก็เดินไปหยิบกระเป๋าเงินทอนจากตู้เพื่อที่จะนำมาทอนเงินให้คนร้าย เมื่อเปิดกระเป๋ากำลังจะทอนเงิน คนร้ายกลับเปลี่ยนใจ บอกว่า “ยายๆ หนูมีแบงก์ร้อยแล้ว เปลี่ยนเป็นแบงก์ร้อยแทนนะ”
คนร้ายยังทำทีเป็นโทรศัพท์อ้างปลายสายเป็นแม่ของคนร้าย ถามว่าจะซื้อกล้วยเล็บมือนางเพิ่มอีกหรือไม่ จากนั้นคนร้ายก็ได้สั่งกล้วยเล็บมือนางเพิ่มอีก 12 หวี ส้มโชกุนอีก 2 กิโลกรัม และห่อหมก อีก 100 บาท ทำให้ตนรู้สึกดีใจ ว่าเพิ่งเปิดร้านแต่กลับมีลูกค้ามาสั่งของเยอะขนาดนี้ เลยเผลอวางกระเป๋าเงินทอนไว้ที่โซฟา แต่ก็ไม่ไกลจากจุดที่ผู้เสียหายไปนั่งเลือกกล้วยให้กับคนร้าย
ไม่ได้สังเกตว่าคนร้ายได้ขยับตัวมานั่งใกล้กระเป๋าเงินทอน และแอบสอดมือเข้าไปลวงหยิบเงินทอนไปถึง 2 ครั้ง รวมเป็นเงิน 9,700 บาท หลังจากคนร้ายหยิบเงินไป ก็มาอ้างกับผู้เสียหายว่า ของที่สั่งไปนั้นเยอะมาก ถือไปที่รถยนต์ไม่ไหว ขอไปเลื่อนรถมาหน้าร้านเพื่อที่จะขนของได้สะดวก ก็ไม่ได้เอะใจอะไรแต่ก็รอเกือบครึ่งชั่วโมง ก็ไม่มารับของที่สั่งสักที ขณะนั้นก็มีลูกค้าอีกคนเข้ามาขอแลกเงิน จึงเดินไปที่กระเป๋าก็พบว่าเงินภายในนั้นหายไปหมดแล้ว มานึกได้ว่าต้องเป็นหญิงคนนั้นอย่างแน่นอน พร้อมวอนขอวอนให้คนร้ายเห็นใจคนทำมาหากินเพราะเดือดร้อนหนักมาก