เพจหมอฟันรวมตัว ซัด นายกรัฐมนตรี พูดสอนชาวบ้าน ฟันเสียหายเพราะมีลูกหลายคน

อีกหนึ่งประเด็นที่ทำหลายคนติดใจสงสัยอย่างมาก เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ลงพื้นที่บ้านโต๊ะโสม ต.บางปู อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เพื่อพูดคุยให้ความรู้ความเข้าใจกับชาวบ้าน ที่ศูนย์เรียนรู้การเพาะเลี้ยงปูทะเล ซึ่งนายกฯ ได้ห่วงสุขภาพเรื่องฟัน โดยเฉพาะผู้หญิง 

 

โดยมีช่วงตอนหนึ่ง นายกรัฐมนตรี ได้ระบุว่า "ฟันเสียหายเยอะเพราะมีลูกหลายคน แคลเซียมถูกลูกดึงไปเยอะ แม่ก็อ่อนแอ ฟันก็หายไปเรื่อย ระวังตรงนี้ด้วย แต่ผมไม่ได้ห้ามการมีลูก เดี๋ยวก็จะถูกบิดเบือนกันไปอีก" ซึ่งหลังจากที่ประโยคดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปก็ทำให้มีชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างมาก 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก ห้องทำฟันหมายเลข 10 ได้โพสต์ทำความเข้าใจใหม่ ถึงประเด็นดังกล่าวว่า จากที่ท่านนายกฯ กล่าวว่า มีลูกแล้วดึงแคลเซียมจากฟันแม่ ทำให้ฟันผุฟันหลุด เรื่องนี้เป็นความเข้าใจที่ผิด โดยข้อเท็จจริง ลูกดึงแคลเซียมจากกระดูกแม่ ไปสร้างกระดูกและฟันของลูก 

 

ส่วนฟันเป็นอวัยวะที่แตกต่างจากกระดูก คือ ไม่สามารถโดนดึงแคลเซียมออกไป หรือสร้างใหม่ได้อีกหลังจากที่สร้างฟันเสร็จแล้ว ฟันผุเกิดจากแบคทีเรีย ฟันหลุดฟันโยกเกิดจากโรคเหงือก (ปริทันต์)  เรื่องนี้หลายๆ คนอาจจะยังเข้าใจผิดอยู่ ก็เป็นโอกาสเรียนรู้ไปพร้อมกับท่านนายกฯ แล้วกันครับ
 

 

ขณะเดียวกันทางเพจฟันน้ำนม ยังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า ฟันของคนเราเมื่อขึ้นในปากแล้ว จะมีการสะสมแร่ธาตุสมบูรณ์ ไม่มีหลอดเลือดหรือท่อน้ำเหลืองมาหล่อเลี้ยงผิวเคลือบฟันอีก ดังนั้น ลูกในท้องแม่จะดึงเอาแคลเซียมจากเคลือบฟันแม่ไปใช้ไม่ได้ เพราะไม่มีทางเชื่อมต่อเพื่อลำเลียงแคลเซียมจากเคลือบฟันไปให้ลูก

หากแม่ฟันผุ นั่นเป็นผลจากการกระทำของตัวแม่เอง (แปรงฟันไม่ดี กินจุบจิบ ไม่พบหมอฟันเป็นประจำ ฯลฯ) ไม่เกี่ยวอะไรกับลูก ฟันผุในหญิงตั้งครรภ์ส่วนใหญ่มาจากการแพ้ท้องทำให้กินจุบจิบ หรือบางคนแพ้ท้องเวลาแปรงฟันแล้วจะอาเจียนอาจทำให้แปรงฟันไม่ดี ฟันจึงมีความเสี่ยงที่จะผุง่ายขึ้น 

คุณแม่ที่รู้ตัวว่ากำลังตั้งครรภ์ควรพบหมอฟัน เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและฟัน อนามัยช่องปากที่ดีของแม่ตั้งครรภ์จะลดการถ่ายทอดเชื้อโรคฟันผุสู่ลูกที่กำลังจะเกิดอีกด้วยช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการทำฟันคือไตรมาสที่ 2 การทำฟันขณะตั้งครรภ์ส่วนใหญ่ไม่อันตราย ทั้งนี้ควรแจ้งทันตแพทย์ทุกครั้งว่ากำลังตั้งครรภ์ และปรึกษาสูตินรีแพทย์ในการใช้ยาชาและอื่นๆ

นาที่ 24 เป็นต้นไป