- 16 ธ.ค. 2564
"พอล ภัทรพล" อดีตพระเอกชื่อดังปัจจุบันประกอบอาชีพเป็นนักธุรกิจโร่แจ้งความ โดนเอาภาพไปแอบอ้างโปรโมทเพจลงทุน
ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 16 ธันวาคม ที่ บช.สอท. เมืองทองธานี นายภัทรพล ศิลปาจารย์ หรือ "พอล ภัทรพล " อดีตพระเอกดัง พร้อมด้วย นายนิติธร แก้วโต หรือ ทนายเจมส์ เข้าแจ้งความกรณีถูกมิจฉาชีพแอบอ้างนำภาพไปโปรโมทเพจการลงทุน
พอล หรือ นายภัทรพล ศิลปาจารย อดีตพระเอกชื่อดังปัจจุบันประกอบอาชีพเป็นนักธุรกิจพร้อมด้วย นายนิติธร แก้วโต (ทนายเจมส์ ) ทนายความ นำเอกสารหลักฐานเข้าแจ้งความกับตำรวจกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. เพื่อให้ดำเนินคดีกับมิจฉาชีพที่เปิดเพจที่นำรูปภาพเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ชักชวนให้ร่วมลงทุนทางออนไลน์ โดยที่ดาราหนุ่มไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและรู้เห็นในการกระทำดังกล่าวแต่อย่างใด
พอล ภัทรพล เปิดเผยว่า เพจดังกล่าวได้อาศัยความน่าเชื่อถือของตนเองโดยนำรูปของตนเองไปโปรโมท บนเพจปลอมที่กลุ่มมิจฉาชีพสร้างเพจขึ้นมาจำนวน 11 เพจ เพื่อชักชวนให้ประชาชนที่หลงเชื่อลงทุนทำธุรกรรมต่างๆเช่น เงินกู้และลงทุนด้ายอื่นๆโดยอ้างว่าจะได้ผลประโยชน์หลายเท่าของเงินลงทุน ซึ่งตนเองยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด เพราะธุรกิจส่วนตัวของตนเองทุกวันนี้ไม่ได้มีรูปแบบตามเพจที่หลอกลวงให้ลงทุน แต่ถ้าหากมีในอนาคตตนเองก็จะทำอย่างให้ถูกต้องตามกฎหมาย และหากผู้ใดมีเบาะแสให้แจ้งมาที่เพจของตนเองเพื่อติดตามคนที่กระทำความผิดมาดำเนินคดี
ส่วนที่ตนเองเข้ามาแจ้งความกับตำรวจในวันนี้เพราะได้รับความเสียหายและไม่อยากให้ประชาชนถูกหลอกพร้อมฝากเตือนหากจะมีการลงทุนขอให้ตรวจสอบก่อนที่จะตัดสินใจเพราะไม่มีการลงทุนใดที่ได้ผลตอบแทนมากมายในระยะเวลาสั้นๆ และอยากฝากถึงมิจฉาชีพที่นำชื่อและโปรไฟล์ของตนเองไปหลอกลวงอยู่ในขณะนี้ว่าให้นำความรู้แล้วสติปัญญาที่มีอยู่ไปทำอย่างอื่นที่มีประโยชน์ดีกว่าที่จะมาทำสิ่งดังกล่าวที่เกิดขึ้น
ขณะที่ นายนิติธร หรือทนายเจมส์ เปิดเผยว่ายังไม่ทราบว่ามีผู้เสียหายที่ร่วมลงทุนมีจำนวนเท่าใด อยู่ระหว่างให้ทีมงานตรวจสอบ เบื้องต้นได้ติดต่อไปยังเพจที่นำรูปนายภัทรพลไปใช้ แต่วิธีการเข้าไปในเพจดังกล่าว ต้องทำการกรอกข้อมูลส่วนตัวในเชิงลึกจึงยังไม่ดำเนินการเพิ่มเติมเพราะเกรงว่าจะถูกนำไปใช้ในทางไม่ดี ซึ่งปัจจุบันเพจดังกล่าวยังคงมีอยู่
โดยวันนี้แจ้งข้อกล่าวหาความผิดฐานพรบ.คอมพิวเตอร์ โดยมีหลักฐานคือ ชื่อเพจ ลิงก์เพจ บัญชีธนาคาร และ ชื่อเจ้าของบัญชีธนาคาร โดยส่วนตัวเชื่อมั่นว่าตำรวจไซเบอร์จะสามารถสืบหาตัวผู้ที่ปลอมเพจดังกล่าวได้ และอยากให้ผู้เสียหายที่ถูกหลอกเข้าแจ้งความกับตำรวจในท้องทีตนเองได้รับความเสียหายเพื่อรวบรวมแจ้งดำเนินคดีในฐานฉ้อโกงต่อไป
ด้านพันตำรวจเอกไพฑูรย์ ลายประดิษฐ์ ผู้กำกับการ ( สอบสวน ) สอท.3 ประจำศูนย์ 5ซี ผู้รับเรื่องร้องเรียนเปิดเผยว่า หลังจากที่รับเรื่องร้องเรียนแล้วจะนำมามอบให้กับกองบังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 ที่รับผิดชอบพื้นที่เกิดเหตุดำเนินการสืบสวนสอบสวน โดยเบื้องต้นพฤติกรรมของผู้ที่แอบอ้างดังกล่าวเข้าข่ายความผิดฐานนำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ส่วนความผิดข้อหาอื่นๆต้องรวบรวมพยานหลักฐาน ว่าเข้าข่ายความผิดใดบ้าง เพื่อดำเนินการต่อไป