เปิดปมสาเหตุ คลิปลูกทำร้ายแม่ ต่อหน้าเพื่อนนับสิบ ห้ามเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง

เปิดสาเหตุ คลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่นักเรียนชั้น ม.1 คนหนึ่งมีปากเสียงกับแม่ ก่อนที่จะมีการทำร้ายร่างกายกันต่อหน้าเพื่อนเป็นสิบ

จากกรณีโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่นักเรียนชั้น ม.1 คนหนึ่งมีปากเสียงกับแม่ ก่อนที่จะมีการทำร้ายร่างกายกันต่อหน้าเพื่อนเป็นสิบ จนถูกชาวเน็ตรุมวิจารณ์ยับว่าเป็นพฤติกรรมไม่เหมาะสม อยากให้ลูกสาวขอโทษแม่ เพราะไม่มีใครรักเราเท่าครอบครัวอีกแล้ว
 

เปิดปมสาเหตุ คลิปลูกทำร้ายแม่ ต่อหน้าเพื่อนนับสิบ ห้ามเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง

 

โดยทางเพจระบุข้อความว่า นักเรียนคนดังกล่าวตบหน้าแม่ต่อหน้าเพื่อนนับ 10 คนซึ่งไม่ทราบต้นเหตุว่ามาจากอะไร แต่แม้ว่าจะผิดหรือถูก ก็ควรต้องคุยกันด้วยเหตุผล ไม่ควรแสดงความก้าวร้าวต่อหน้าคนอื่น อย่างไรก็คือแม่ที่เลี้ยงดู ส่งเสียให้เรียน แนะนำให้กลับไปขอโทษแม่ ชีวิตต้องอยู่อย่างมีสติ ไม่มีใครรักเราเท่าครอบครัว

 

เปิดปมสาเหตุ คลิปลูกทำร้ายแม่ ต่อหน้าเพื่อนนับสิบ ห้ามเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง

 

ทั้งนี้ หลังจากคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ได้มีชาวเน็ตเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก หลายคนต่างตำหนิพฤติกรรมของเด็กหญิงคนนี้ว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เรียกว่าอกตัญญูเลยก็ว่าได้ เพราะทำร้ายบุพการีเป็นบาปกรรม หลังจากนี้ควรรีบไปกราบเท้าขอขมาแม่อย่างด่วน ถ้าไม่อย่างนั้น ชีวิตหลังจากนี้จะทำอะไรก็ไม่เจริญ

 

เปิดปมสาเหตุ คลิปลูกทำร้ายแม่ ต่อหน้าเพื่อนนับสิบ ห้ามเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง

 

เปิดปมสาเหตุ คลิปลูกทำร้ายแม่ ต่อหน้าเพื่อนนับสิบ ห้ามเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง

 

อย่างไรก็ตาม ภายหลังทราบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ที่ผ่านมา ผู้เป็นแม่ได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปรับลูกสาวกลับบ้านตามปกติ เห็นลูกกำลังเคลียร์ปัญหากับเพื่อนร่วมชั้นที่ศาลา แม่ก็ไม่รู้ว่าทะเลาะเรื่องอะไร จึงเข้าไปห้ามปราม เพราะยังไงก็รู้จักกับเพื่อนลูกอยู่แล้ว ลูกก็โมโหจนเกิดเหตุการณ์ในคลิป แต่เมื่อกลับถึงบ้านลูกสาวก็ขอโทษ ส่วนเด็ก ๆ ก็ปรับความเข้าใจกัน ส่วนตัวไม่ติดใจอะไร ให้อภัยลูกได้ เพราะน้องทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ตนอยากให้สังคมให้โอกาสลูกสาวตนเองด้วย ให้เป็นบทเรียนในชีวิตน้อง และเดินหน้าต่อไปในสังคมได้

 

เปิดปมสาเหตุ คลิปลูกทำร้ายแม่ ต่อหน้าเพื่อนนับสิบ ห้ามเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง

 

เปิดปมสาเหตุ คลิปลูกทำร้ายแม่ ต่อหน้าเพื่อนนับสิบ ห้ามเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง