- 17 ธ.ค. 2564
ชายหนุ่มชาวจีนรายหนึ่ง จากมณฑลเหอหนาน เขาได้รับการกล่าวขานว่า ถูกเลี้ยงดูอย่างเสียนิสัย ซึ่งพ่อแม่ดูแลประคบประหงมยิ่งกว่าไข่ในหิน ทำให้ทุกอย่างจนลูกชายแสนขี้เกียจ ทำอะไรไม่เป็นตั้งแต่เด็กจนตาย
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เมื่อเว็บไซต์ต่างประเทศรายงานว่า "หยาง ซัว" ชายหนุ่มชาวจีนรายหนึ่ง จากมณฑลเหอหนาน เขาได้รับการกล่าวขานว่า ถูกเลี้ยงดูอย่างเสียนิสัย ซึ่งพ่อแม่ดูแลประคบประหงมยิ่งกว่าไข่ในหิน ทำให้ทุกอย่างจนลูกชายแสนขี้เกียจ ทำอะไรไม่เป็นตั้งแต่เด็กจนตาย
หยางเติบโตในครอบครัวที่มีฐานะปานกลางค่อนข้างไปทางยากจน แต่เขาเป็นลูกชายคนเดียวในครอบครัว พ่อแม่ของเขาจึงรักและหวงแหน คอยดูแลใส่ใจเขาอย่างที่สุด แทบจะไม่ต้องทำอะไรด้วยตัวเอง แม้กระทั่งการเดิน ในขณะที่เด็กทั่วไปจะเดินได้ตอนอายุ 1-2 ขวบ แต่หยางเดินเองตอนอายุ 8 ขวบ รวมไปถึงเรื่องที่โรงเรียน หยางไม่ชอบทำการบ้าน และเมื่อใดที่คุณครูเข้มงวดมาตักเตือนเขา เรื่องก็จะถึงหูพ่อและแม่ เช้าวันรุ่งขึ้นพวกเขาก็จะเดินทางไปร้องเรียนคุณครูถึงที่โรงเรียนจนเป็นเรื่องราวใหญ่โต จนสุดท้ายก็ไม่มีคุณครูคนไหนกล้าจะไปสั่งสอนหยางจริงจัง
ในบรรดาลูกพี่ลูกน้องทั้ง 8 คน หยางเป็นที่หล่อที่สุด ฉลาดที่สุด แต่ขี้เกียจที่สุด ซึ่งจริง ๆ แล้วในตอนแรกเขาไม่ใช่คนแบบนี้ ตอนเป็นเด็กเขาพยายามจะช่วยพ่อแม่ทำงานต่าง ๆ แต่เป็นพ่อแม่ของเขาเสียเองที่ห้ามเขา พอพ่อและแม่ของหยางเห็นลูกหยิบจับอะไร ก็กลัวว่าลูกจะเหนื่อย ทำให้สุดท้ายหยางก็กลายเป็นคนที่ไม่สามารถทำอะไรได้ด้วยตัวเอง และแทบจะไม่ชอบทำอะไรเลย ขนาดตอนโตแล้ว เขายังให้พ่อคอยแบกเขาเดินอยู่ประจำ
จนกระทั่งตอนที่หยางอายุ 13 ปี พ่อของเขาก็เสียชีวิตด้วยโรคตับ หลังจากนั้นแม่ของเขาก็เลี้ยงดูหยางมาตามลำพัง แต่เธอก็ยังดูแลลูกชายคอยทำให้ทุกอย่างเหมือนเดิม จนร่างกายของเธอแย่ลงเรื่อย ๆ เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น แม่ของเขาก็หวังว่าลูกชายจะช่วยงานบ้านได้บ้าง ซึ่งเขาไม่เพียงแค่ปฏิเสธ แต่ยังอารมณ์เสีย และทำร้ายทุบตีแม่อีกด้วย
หยางไม่ยอมทำอะไรทั้งนั้น วัน ๆ เอาแต่นอน งานบ้านและงานในฟาร์มแม่ของเขาก็ทำเองทั้งหมด จนในที่สุด แม่ของเขาก็ล้มป่วยจากการทำงานหนักเกินไป และสุดท้าย ในขณะที่หยางอายุ 18 ปี แม่ของเขาก็เสียชีวิตจากไปอีกคน ทำให้เขาเหลือตัวคนเดียว ไม่นานหลังจากที่แม่เสียชีวิต หยางซึ่งเติบโตมาอย่างไร้ความสามารถในการหาเลี้ยงชีวิตตัวเอง เขาได้ขายสมบัติของครอบครัวจนหมด และเพียงไม่นานเขาก็ใช้เงินจนไม่เหลือ จากนั้นก็อาศัยขออาหารตามหมู่บ้าน ชาวบ้านสงสารก็ให้ปลา เนื้อ และผัก หยางไม่ต่างอะไรจากคนจรจัด เอาแต่ขอทานจากคนอื่นเพื่อประทังชีวิตไปวัน ๆ
หยางทำอาหารเองไม่เป็น ซักผ้าเองไม่ได้ เขาขี้เกียจแม้กระทั่งไปเข้าห้องน้ำ เขาจึงขุดหลุมดินเอาไว้ใกล้ที่นอน เพื่อจะได้ไม่ต้องเดินไกล เขามีชีวิตอยู่ในสภาพที่สุดน่าอนาถ เมื่ออากาศหนาว เขาก็ใช้วิธีหาของในบ้านมาเผาเป็นฟืนเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น แม้กระทั่งเตียงก็ถูกสับมาเผา ลูกพี่ลูกน้องของหยาง เห็นแล้วก็อดเวทนาไม่ได้ จึงได้พยายามเข้าไปช่วยเหลือ ให้เขามาทำงานที่ไซต์งานก่อสร้างที่ตนทำอยู่ แต่แน่นอนว่า หยางผู้ทำอะไรไม่เป็นและอดทนกับอะไรไม่ได้ เมื่อเขาไปถึงที่ไซต์งาน ก็บอกว่ามันร้อนเกินไป และวิ่งกลับบ้าน ในที่สุดทุกคนต่างหมดหวังที่จะช่วยให้เขามีชีวิตที่เป็นปกติ
ล่าสุด ลูกพี่ลูกน้องของหยางได้ข่าวว่าหยางไม่ได้กินข้าวมาหลายวัน ด้วยความเป็นห่วง จึงนำอาหารพร้อมกับผ้าห่มไปเยี่ยมเขาที่บ้าน แต่ปรากฏว่าสิ่งที่เห็นคือภาพสุดสลดหดหู่ใจ ร่างไร้วิญญาณของหยาง มีสภาพผอมซูบเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูก สุดท้ายชีวิตของหยางก็จบลงด้วยอายุเพียง 23 ปี