- 19 ธ.ค. 2564
ญาติผู้เสียชีวิตเหยื่อหนุ่มวิทยากรเครื่องสำอางแบรนด์ดัง ซิ่งเบนซ์ป้ายแดง เสยท้ายเก๋งดับ 3 เผยคนขับช่วยค่าทำศพเบื้องต้น 2 หมื่น และรับเลี้ยงจ่ายค่าดูลูกผู้ตายทั้ง 3 คน
จากกรณีหนุ่มวิทยากรเครื่องสำอางแบรนด์ดัง ซิ่งเบนซ์ป้ายแดง เสยท้ายเก๋งดับ 3 บนทางด่วนศรีรัช ขั้นที่ 2 ทิศทางมุ่งหน้ามอเตอร์เวย์ช่วงบริเวณข้ามคลองแสนแสบ ทั้งนี้ตำรวจพบผลตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย หนุ่มวิทยากรเครื่องสำอางแบรนด์ดัง เกินกว่ากฎหมายกำหนด ส่วนรายละเอียดอื่นๆ นายจินทวัส พงศ์บางลี่ อายุ 33 ปี ยังไม่สามารถให้การได้ทั้งหมด เนื่องจากอยู่ในอาการบาดเจ็บบริเวณลำตัวเพราะได้รับแรงกระแทกจากแอร์แบ๊คภายในรถระเบิดทั้งคัน จึงต้องส่งตัวไปรักษาอาการบาดเจ็บ ก่อนที่จะเข้าพบพนักงานสอบสวนเมื่อเช้านี้ เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาขับรถขณะมึนเมาสุราเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต โดยไม่คัดค้านการประกันตัว
ด้าน นางสุดา ไทยเจริญ อายุ 55 ปี มารดาและญาติของ น.ส.อัจฉรา เข็มทอง อายุ 30 ปี ผู้ขับขี่รถเก๋งฮอนด้าที่เสียชีวิต เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ทางด่วน 2 เพื่อให้ปากคำตำรวจ พร้อมเปิดใจว่าตนเพิ่งทราบเรื่องเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เนื่องจากตำรวจโทรมาแจ้งว่าลูกสาวเสียชีวิตสำหรับรถยนต์ฮอนด้าคันที่ถูกชน ลูกสาวเพิ่งซื้อได้ 1 ปี ตนกับลูกสาวไม่ได้อยู่ด้วยกัน จึงไม่ทราบรายละเอียดว่าลูกสาวจะเดินทางไปไหน และไม่ทราบว่าในรถมีกี่คนที่ผ่านมาได้คุยกันทางโทรศัพท์เท่านั้น และได้คอยตักเตือนให้ระวังความปลอดภัยเรื่องการขับรถ รวมทั้ง เรื่องดูแลครอบครัวเพราะลูกสาวมีลูก 3 คนวัย 3-5 ขวบ
นางสุดา กล่าวว่า การสูญเสียครั้งนี้ ทำให้ครอบครัวรู้สึกช็อค และหลังเกิดเหตุยังไม่มีการพูดคุยกับคู่กรณี และคู่กรณียังไม่มีการติดต่อมา แต่เมื่อเรื่องราวทางคดี เสร็จสิ้น ตนก็อยากจะพูดคุยกับคู่กรณีถึงสาเหตุและเรื่องที่เกิดขึ้น ส่วนตอนนี้ จะประสานกับสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อนำร่างลูกสาวไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี
คืบหน้าเหตุการรณ์หนุ่มวิทยากรเครื่องสำอางแบรนด์ดัง ซิ่งเบนซ์ป้ายแดง เสยท้ายเก๋ง ล่าสุด นางสุดา ไทยเจริญ มารดาของ น.ส.อัจฉรา เข็มทอง ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า เมื่อเช้าเดินทางไปที่ สน.ทางด่วน 2 ได้พบนายจินทวัส ผู้ก่อเหตุได้กล่าวคำขอโทษ และบอกว่า ยินดีจะรับผิดชอบทุกอย่าง ทั้งค่าทำศพเบื้องต้น 2 หมื่นบาท และค่าเลี้ยงดูลูกทั้ง 3 คนของ น.ส.อัจฉรา และอยากมาขอขมาศพ ซึ่งตนยินดีหากคู่กรณีพร้อมรับผิดชอบ ตอนนี้ไม่ได้คับแค้นใจอะไร เพราะชีวิตลูกสาวเรียกกลับคืนมาไม่ได้แล้ว ไม่อยากจองเวรซึ่งกันและกัน
ขณะที่นางนงรักษ์ ศรีนิล แม่ของ น.ส.ชวพร นวลสุวรรณ ผู้เสียชีวิตอีกราย กล่าวว่า ลูกสาวเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวเช่นกัน ก่อนเกิดเหตุเมื่อคืนนี้ ช่วง 5 ทุ่มเพิ่งจะพูดคุยกับลูกสาวเรื่องหาเงินมาใช้จ่ายในครอบครัว ก่อนที่ลูกสาวขอออกไปข้างนอกกับเพื่อน ส่วนตนเข้านอนโดยที่ไม่มีลางสังหรณ์ใจเลยว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้น กระทั่งช่วงเช้าเพื่อนของลูกโทรศัพท์มาบอกว่า ลูกสาวเสียชีวิต ตอนนี้ยังช็อกและทำใจไม่ได้ อยากให้ผู้ก่อเหตุเข้ามาขอขมาศพและรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น