- 20 ธ.ค. 2564
ศูนย์วิจัยคลินิก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เผยแนวทางฉีดวัคซีนโควิดเข็ม 3 กระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันพุ่งขึ้นสูง เทียบชัดแอสตร้าฯและซิโนแวคหลังกระตุ้นด้วยไฟเซอร์ พบซิโนแวคภูมิขึ้นมากกว่า
ศูนย์วิจัยคลินิก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Siriraj Institute of Clinical Research ถึงผลการวิจัยการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 โดยข้อความระบุว่า ฉีดวัคซีนโควิดครบ 2 เข็มแล้ว กระตุ้นเข็ม 3 ด้วยวัคซีนอะไรดี? และควรฉีดอีกทีเมื่อไหร่? มาไขข้อสงสัยด้วยผลวิจัยจากศูนย์วิจัยคลินิก ศิริราช เผยภูมิคุ้มกันเฉลี่ย ในช่วง 2 สัปดาห์ และ 12 สัปดาห์หลังเข็มที่สอง ช่วยเป็นแนวทางในการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3
สำหรับการวิจัยฉีดวัคซีนโควิดครบ 2 เข็ม ตามด้วยวัคซีนเข็ม 3 สูตรต่างๆ จะช่วยกระตุ้นภูมิกันให้สูงขึ้น ดังนี้
ระดับภูมิคุ้มกัน (IgG BAU/mL) หลังจาก "ฉีดวัคซีนโควิด" เป็นวัคซีนเข็มที่ 3 ในผู้ที่ฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZenneca) มาแล้วสองเข็ม พบว่า หลังจากฉีดวัคซีนครบ 12 เข็มแล้วระดับภูมิคุ้มกันอยู่ที่ 425 IgG BAU/mL หลังจากผ่านไป 2 สัปดาห์ภูมิคุ้มกันจะลดลงเหลือ 102 IgG BAU/mL เมื่อฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นด้วยวัคซีนไฟเซอร์เต็มโดส พบว่าเมื่อผ่านไปประมาณ 2 สัปดาห์ ระดับภูมิคุ้มกันขึ้นไปที่ 2,377 IgG BAU/mL
ขณะที่ระดับภูมิคุ้มกัน (IgG BAU/mL) หลังจาก "ฉีดวัคซีนโควิด" เป็นวัคซีนเข็มที่ 3 ในผู้ที่ฉีดวัคซีนซิโนแวค (Sinovac) มาแล้วสองเข็ม พบว่า หลังจากฉีดวัคซีนครบ 12 เข็มแล้วระดับภูมิคุ้มกันอยู่ที่ 230 IgG BAU/mL หลังจากผ่านไป 2 สัปดาห์ภูมิคุ้มกันจะลดลงเหลือ 33 IgG BAU/mL เมื่อฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นด้วยวัคซีนไฟเซอร์เต็มโดส พบว่าเมื่อผ่านไปประมาณ 2 สัปดาห์ ระดับภูมิคุ้มกันขึ้นไปที่ 5,152 IgG BAU/mL
ขอบคุณ FB : Siriraj Institute of Clinical Research