- 24 ธ.ค. 2564
พบคลัสเตอร์โอไมครอนแห่งแรกในไทยแล้ว ติดเชื้อ 22 ราย เสี่ยงสูงอีกหลายร้อย ทำให้ไทยพบผู้ติดเชื้อโอมิครอนสะสมแล้ว 205 ราย
วันที่ 24 ธันวาคม 2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ครั้งที่ 12/2564 เผยว่าขณะนี้พบคลัสเตอร์โอไมครอนแห่งแรกในไทยแล้ว ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 โอไมครอนทั้งหมด 22 ราย และผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอีกร่วมร้อยราย อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดเป็นสายพันธุ์โอไมครอน ทำให้ไทยพบผู้ติดเชื้อโอมิครอนสะสมแล้ว 205 ราย
ซึ่งตอนนี้พฤติกรรมช่วงปีใหม่ที่มีความน่ากังวล คือ การรวมกลุ่มกันเป็นอันตรายที่สุด ซึ่งการติดเชื้อโอมิครอนที่เดินทางมากจากต่างประเทศรู้ต้นตอว่ามาจากไหน แต่หากใครที่เดินทางกลับบ้าน ก็ขอให้ตรวจ ATK ก่อนไปพบผู้อื่น ญาติพี่น้อง อย่างกรณี สามี-ภรรยา จ.กาฬสินธุ์ ที่เดินทางมาจากยุโรปตรวจ RT-PCR ผ่านก็กลับกาฬสินธุ์ ต่อจากนั้นไปหาญาติ จ.อุดรธานี แล้วไม่ได้ตรวจซ้ำ ก็ไปแพร่เชื้อต่ออีก 20 ราย ทั้งครอบครัว พนักงานร้านอาหาร และลูกค้าในร้าน
นายอนุทิน กล่าวว่า "กรณีนี้เป็นการนำเชื้อโดยผู้ติดเชื้อมาให้คนอื่น ซึ่งมีคำแนะนำชัดเจน DMHTT ไม่ใช้ภาชนะร่วมกัน โดยเฉพาะถังน้ำแข็ง แก้ว แก้วเครื่องดื่ม รวมถึงฉีดวัคซีนให้ครบโดส ก็ไม่มีปัญหาแน่นอน"
นอกจากนี้ยังเปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กำชับทางผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดให้อยู่ในพื้นที่ ออกตรวจความเรียบร้อย ดังนั้น สธ.ก็กำชับให้นายแพทย์สาธารณาสุขจังหวัด(นพ.สสจ.) ทำงานคู่กันไป หากพบกิจกรรมที่ทำผิดกฎระเบียบจากที่ขออนุญาตไว้ ก็ต้องดำเนินการยกเลิกทันที โดยไม่ต้องให้ความเกรงอกเกรงใจใครทั้งสิ้น เพราะถือว่าเปิดให้แล้ว ก็ขอให้ร่วมมือตามระเบียบ เพื่อให้ทุกคนฉลองอย่างปลอดภัย และขอความร่วมมือจาก อสม.ในการออกตรวจตราคัดกรองผู้เดินทางเข้าพื้นที่ ตรวจหาเชื้อด้วย ATK ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันส่วนตัว สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เว้นระยะห่างและล้างมือ ซึ่งที่ผ่านมาทุกท่านปฏิบัติหน้าที่ในส่วนนี้ได้เป็นอย่างดีก็ขอให้ท่านดำเนินต่อเพื่อความปลอดภัยในชุมชน
ทางด้านนพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงกรณีสามีภรรยาที่เดินทางมาจากประเทศเบลเยี่ยม ที่ จ.กาฬสินธุ์ ติดเชื้อโอมิครอนว่า เป็นอุทาหรณ์ถึงความไม่ประมาท เพราะการเดินทางเข้ามาด้วยระบบ Test&Go แม้จะมีการตรวจ RT-CPR ก่อนเข้าไทย 72 ชม. เมื่อเข้าไทยตรวจซ้ำอีกครั้งในรอบ 24 ชม. ก็ยังไม่การันตีว่าจะไม่ติดเชื้อ อาจอยู่ในระยะฟักตัวของโรค ฉะนั้นสำหรับคนไทยที่เพิ่งกลับเข้าประเทศมาในช่วง อย่าเพิ่งรีบไปพบญาติ หรือรวมตัวกัน เพราะอาจเสี่ยงติดเชื้อจากช่วง วินโดพีเรียล และคนที่มีญาติเพิ่งมาจากต่างประเทศก็อย่าเพิ่งรีบไปเจอหรือรวมตัวกัน
ด้านนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กล่าวว่า ในจำนวนผู้ติดเชื้อโอมิครอนสะสม 205 ราย ทั้งหมดยังมีอาการไม่มากแต่มีการติดตามอย่างต่อเนื่อง และส่วนใหญ่ยังเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ ส่วนกรณีที่มีผู้ติดเชื้อโอมิครอนในประเทศต่อจากผู้เดินทางมาจากต่างประเทศเป็นคลัสเตอร์ราว 20 คนนั้นถือเป็นคลัสเตอร์แรกที่มีการติดเชื้อในประเทศ ซึ่งกรณีเป็นตัวอย่างสำหรับผู้ที่เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศในระบบTest&Go แม้ว่าจะมีการตรวจเชื้อที่ต้นทางก่อนเดินทาง 72 ชั่วโมง เมื่อถึงไทยตรวจหาเชื้ออีก 1 ครั้ง และตรวจอีกครั้งในวันที่ 5-6 แต่ก็มีโอกาสคนที่จะหลุดได้แม้จะไม่มาก เพราะอาจจะอยู่ในระยะฟักตัวของโรค จึงต้องใช้การเฝ้าระวังในประเทศด้วย
ทั้งนี้ ในผู้ที่ลงทะเบียนเข้าไทยในรูปแบบ Test&Go ที่ยังมีอยู่อีกราว 2 แสนคนนั้น คาดว่าจะมีการเดินทางเข้ามาจริงราว 70 % และทยอยเข้ามา ในจำนวนนี้คาดว่าจะมีผู้ติดเชื้อราว 1 ในหมื่นหรือรวมแล้วราว 200 คน ดังนั้น ผู้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ควรระมัดระวังตัว ก็จะทำให้ความเสี่ยงน้อยลง เพราะการตรวจไม่เจอเชื้อวันนี้ อาจเป็นเพราะอยู่ในระยะฟักตัวของโรคก็เป็นได้ เมื่อเวลาผ่านไปก็อาจตรวจเจอเชื้อก็ได้ เพราะฉะนั้น ต้องคิดว่าทุกคนมีความเสี่ยง และในช่วงปีใหม่ขอให้ระมัดระวังหากมีกิจกรรมขอให้จัดในพื้นที่เปิดโล่งโปร่ง ใส่หน้ากาก และอย่ามีกิจกรรมนานเกินไป