แม่คนไข้หมอกระต่าย เผย ลูกกำลังจะผ่าตัดตาครั้งสุดท้าย แต่ความหวังก็ดับลง

จากกรณี ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก  ซิ่งบิ๊กไบค์ชน พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ หมอกระต่าย แพทย์ผู้ชำนาญการด้านจักษุวิทยา ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จนเสียชีวิตขณะเดินข้ามทางม้าลาย ทั้งในเรื่องกฎหมายที่ควรเข้มงวดกว่าแต่ก่อนเพราะรถบิ๊กไบค์ของ ส.ต.ต.นรวิชญ์  นั้นไม่ได้ติดป้ายทะเบียนรถ ทั้งยังไม่ยอมชะลอความเร็วเมื่อขับใกล้ถึงทางม้าลาย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ควรทำมากกว่าเร่งเครื่องเพื่อให้ผ่านจุดนั้นได้เป็นจิตสำนึกและความรับผิดชอบส่วนบุคคลที่สังคมตั้งคำถามว่าถึงเวลาแล้วหรือยังในการปลูกจิตสำนึกเรื่องนี้อย่างจริงจังเพื่อไม่ให้เกิดเคสแบบหมอกระต่ายขึ้นมาอีก

 

 

 

ล่าสุดวันที่ 23 ม.ค. เพจ หนูน้อยบนยอดเขาอันหนาวเหน็บ ได้มีการแชร์กรณีที่  หมอกระต่าย พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล ถูกบิ๊กไบค์ตำรวจเสียชีวิตว่า เป็นหมอสาขาที่ขาดแคลน เรียนสาขาย่อยถึง 2 สาขา ซึ่งจะสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยทางตาได้มาก ทั้งสาขาจอตา ที่ในประเทศมีประมาณ 100 คน และสาขาม่านตาอักเสบที่ในประเทศมีอยู่ไม่กี่สิบคน ต่อมาได้มีผู้ปกครองของคนไข้คุณหมอกระต่าย ได้เข้ามาคอมเมนต์ว่า  "เศร้ามากค่ะ ลูกเรารักษาตาต่อเนื่องกับคุณหมอ กำลังจะวางแผนผ่าตัดตาในเร็ว ๆ นี้ รู้ข่าวแล้วเศร้า แถมความรู้สึกของคนเป็นแม่แทบใจสลายกับความหวังของตาลูกชาย ที่จะหายดี"
 

 "ตอนนี้ลูกกระจกตาดีขึ้น ผ่าก้อนเนื้อในโพรงประสาทตาดีขึ้น ทุกอย่างเริ่มดีขึ้นเหลือการผ่าตัดครั้งสุดท้ายที่จะทำให้เหมือนลูกชายมีสายตาปกติเหมือนคนทั่วไปทางภายนอก หมอท่านนี้ทิ้งอะไรไว้มากมายเลยจริง ๆ ค่ะ"