"ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก" ซิ่งบิ๊กไบค์ชน "หมอกระต่าย"ดับ เผยเสียใจมาก

จากกรณี ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก  ซิ่งบิ๊กไบค์ชน พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ หมอกระต่าย แพทย์ผู้ชำนาญการด้านจักษุวิทยา ภาควิชาจักษุวิทยา  คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จนเสียชีวิตขณะเดินข้ามทางม้าลาย ทั้งในเรื่องกฎหมายที่ควรเข้มงวดกว่าแต่ก่อนเพราะรถบิ๊กไบค์ของ ส.ต.ต.นรวิชญ์  นั้นขี่รถไม่ได้ติดป้ายทะเบียน  ทั้งยังไม่ยอมชะลอความเร็วเมื่อขับใกล้ถึงทางม้าลาย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ควรทำมากกว่าเร่งเครื่องเพื่อให้ผ่านจุดนั้นได้เป็นจิตสำนึกและความรับผิดชอบส่วนบุคคลที่สังคมตั้งคำถามว่าถึงเวลาแล้วหรือยังในการปลูกจิตสำนึกเรื่องนี้อย่างจริงจังเพื่อไม่ให้เกิดเคสแบบหมอกระต่ายขึ้นมาอีก

ล่าสุด ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก ที่ขับรถ จยย. บิ๊กไบก์ชน หมอกระต่าย เสียชีวิต เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ ว่า..."ผมเสียใจมาก ก่อนเกิดเหตุตนขับขี่ตามหลังรถตู้มา กำลังจะเดินทางไปกินข้าวที่อนุสาวรีย์ชัยฯ ระหว่างนั้นแซงเบี่ยงออกมาเลนขวา มีรถตู้จอดบังทำให้ไม่เห็นคนเดินข้ามทางม้าลาย"

"ขับขี่มาด้วยความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เบรกไม่ทัน ทำให้รถพุ่งชนหมอกระต่ายอย่างจัง ตนเห็นกระชั้นชิดมาก" "หลังเกิดเหตุตนไม่เห็นร่างของหมอกระต่ายที่กระเด็นไปไกล เพราะขณะนั้นตนก็วูบไปเหมือนกัน ได้รับบาดเจ็บเป็นแผลถลอกบริเวณแขนขวา และซี่โครงขวา"

"พอฟื้นขึ้นมาตนก็รีบไปดูหมอกระต่าย ยืนยันไม่ได้หลบหนี  หลังจากที่ตนทำแผลเสร็จ ได้เข้าให้ปากคำกับตำรวจ สน.พญาไท ช่วง 6 โมงเย็นในวันเกิดเหตุ และรับทราบข้อกล่าวหา"

"ผมผิดมาก ผมเสียใจมาก ผมจุกมาก ผมพูดไม่ออก ยอมรับผิดทุกอย่าง ผมสำนึกผิด ต้องขอโทษครอบครัวของหมอกระต่าย ยอมรับทุกข้อกล่าวหา หลังเกิดเหตุผมได้ไปงานศพเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และแสดงความเสียใจที่ผมได้กระทำ"

"ผมยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับพ่อแม่ของหมอกระต่ายมากนัก แต่ได้เจอกัน โดยวันที่อยู่โรงพัก ผมได้กราบและขอโทษเขาไปแล้ว แต่ตอนนี่คุณพ่อคุณแม่ของหมอกระต่ายยังทำใจไม่ได้”

ขอบคุณที่มา : เรื่องเล่าเช้านี้