วัดติดป้ายไม่ขอรับเงิน ไม่รับกฐิน ไม่เอาไฟฟ้า ไม่เรี่ยไร ไม่ต้องการเงินใดๆ

วัดป่าจ.บึงกาฬ ไม่รับบริจาคใดๆ ทั้งสิ้น กลายเป็นภาพไวรัลที่โลกออนไลน์ให้ความสนใจและร่วมกันสาธุบุญอย่างมาก เมื่อญาติโยมที่เคยไปทำบุญ ที่วัดป่าดานวิเวก (วัดดงศรีชมภู) หมู่ที่ 7 บ้านแสงอรุณ ต.ศรีชมภู อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ และสะดุดตากับป้ายประกาศที่ทางวัดติดตั้งไว้บนศาลา ซึ่งเป็นคำสั่งสอนญาติโยมของท่านหลวงปู่ปรีดา ฉนฺทกโร หรือ หลวงปู่ทุย ที่รู้จักกันทั่วไป โดยข้อความคำสอนในป้ายมีใจความว่า

คนแห่อนุโมทนา วัดติดป้ายไม่ขอรับเงิน ไม่รับกฐิน ไม่เอาไฟฟ้า ไม่เอาเรี่ยไร ไม่ต้องการเงินใด ๆ ขอเดินทางสายพระป่าอย่างเคร่งครัด

 

 

"แจ้งคณะศรัทธาผู้บริจาค ทางวัดไม่ขาดแคลนในเรื่องใดๆ พระสงฆ์อยู่ด้วยความพอ มีทรัพย์ มีเงินทองเก็บไว้สงเคราะห์ครอบครัว ได้บุญเหมือนกัน" และอีกข้อความหนึ่ง ใจความว่า "โยมอย่าเอาไฟฟ้าเข้าวัด เพราะจะทำให้พระต้องมีค่าใช้จ่าย พระไม่มีรายได้ อยู่โดยไม่มีไฟฟ้าดีกว่า"

 

อีกทั้งยังมีป้ายเตือนต่างๆ รอบๆ บริเวณวัด ถึงการแต่งกายของสุภาพสตรีด้วยว่า "สุภาพสตรีแต่งตัวให้พอเหมาะกับสถานที่ วัดไม่ใช่สถานที่อวดเนื้ออวดหนัง อวดกันไปทำไม มีด้วยกันทุกคน นุ่งเขินๆ นุ่งรัดตัว หมู่นี้กำลังมีนิสัยบ้าๆ อย่าลืมตัวจะไม่งามเลยไม่สมควรเข้าวัด" รวมถึงป้ายเตือนสติว่า "โปรดทราบวัดไม่ใช่สถานที่ ที่ท่องเที่ยวหรือทัศนาจร หากแต่เป็นที่ยึดเหนี่ยวน้ำใจของชาวพุทธทางด้านจิตใจเป็นสำคัญ"

คนแห่อนุโมทนา วัดติดป้ายไม่ขอรับเงิน ไม่รับกฐิน ไม่เอาไฟฟ้า ไม่เอาเรี่ยไร ไม่ต้องการเงินใด ๆ ขอเดินทางสายพระป่าอย่างเคร่งครัด

แต่เมื่อตรวจสอบกลับพบว่า ปัจจุบันป้ายข้อความเหล่านี้ ไม่ปรากฏบนศาลาแล้ว คาดว่าคงถูกนำไปเก็บไว้ เพื่อไม่เกิดเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา ซึ่งนายอู๊ด สนธิกา มัคนายกวัด อธิบายถึงเรื่องนี้ว่า ป้ายข้อความที่ตั้งไว้อยู่บนศาลาวัด หลวงปู่ทุยท่านให้ติดตั้งไว้เป็นคำสั่งสอนเตือนสติญาติโยมที่มาวัด 

ในเชิงให้ข้อคิดเป็นปริศนาธรรมว่าพระที่วัดท่านมีความสงบพอเพียงแล้ว ถ้าหากจะทำบุญ ขอให้ไปทำบุญกับวัดที่พระท่านยังขาดแคลน หรือจะนำเงินไปสงเคราะห์บิดามารดาผู้มีพระคุณ ก็จะได้บุญเหมือนกัน และอย่าเอาไฟฟ้าเข้าวัดพระท่านไม่มีความจำเป็นต้องการความเงียบสงบบำเพ็ญเพียรภาวนา

คนแห่อนุโมทนา วัดติดป้ายไม่ขอรับเงิน ไม่รับกฐิน ไม่เอาไฟฟ้า ไม่เอาเรี่ยไร ไม่ต้องการเงินใด ๆ ขอเดินทางสายพระป่าอย่างเคร่งครัด
ส่วนประเด็นเรื่องที่ว่าป้ายหายไปไหนนั้น ก็น่าจะเป็นเพราะช่วงที่คณะพระลูกศิษย์หลวงปู่ทุยที่มาจากนครพนมมากราบคารวะ พบว่า เสาศาลาวัดซึ่งทำด้วยไม้มะค่าแต่มีปลวกมาอาศัยอยู่ด้านในกลางเสา จึงได้กราบเรียนขออนุญาตหลวงปู่เพื่อเปลี่ยนเสาศาลาใหม่ อาจจะนำไปเก็บไว้ก่อนเพื่อไม่ให้เกะกะกีดขวางการทำงานของช่างก็เป็นได้

ขณะเดียวกัน ญาติโยมมีการเล่าเรื่องราวของวัดป่าดานวิเวก ในทำนองเนื้อหาที่ว่า จะมีสักกี่วัดในประเทศไทยที่กล้าหาญชาญชัยขึ้นป้ายเเบบนี้ หายากเเต่ก็ยังหาเจอ พร้อมอนุโมทนา ทั้งยังเล่าประวัติของวัดด้วยว่า เป็นวัดที่คงปฏิปทาสายพระป่าที่หาได้ยากในปัจจุบันนี้ โดยมี หลวงปู่ปรีดา (ทุย) ฉนฺทกโร เป็นผู้อบรมสั่งสอน หลวงปู่ทุยจะดุในแง่เจ้าระเบียบ และรักษาข้อวัตร - ปฏิปทาอย่างเข้มงวดกวดขัน

 

- วัดป่าดานวิเวกไม่มีสิ่งก่อสร้างใดๆ นอกจากศาลาใหญ่หลังหนึ่งและกุฏิที่อยู่ห่าง ๆ กันไปเท่าที่จำเป็น โดยอาสนะของพระจะสูงกว่าพื้นดินเพียงคืบเดียว หลวงปู่ทุยมีข้อปฏิบัติว่าจะไม่สร้างวัตถุถาวรใดๆ เกินความจำเป็น มุ่งปลูกป่าอย่างเดียว

 

- พระรูปไหนอ้วน หลวงปู่ทุยจะเรียกไปคุยสอบถามว่าอ้วนอย่างไร หรืออาจจะเป็นเพราะว่าขี้เกียจภาวนา ไม่เดินจงกรม จึงอ้วน พระเณรในวัดจะถือบิณฑบาตทุกวัน ไม่มีเว้น นอกจากเจ็บป่วยจริงๆ

 

- หลวงปู่ทุยตั้งใจพาปฏิบัติแบบโบราณ ยึดกับของเก่า ไม่ใช้เทคโนโลยี ท่านบอกว่า เทคโนโลยีเข้ามาจะเป็นผลเสีย คนสมัยนี้วิ่งเร็วเกินตัวเองไปมาก อันตราย

คนแห่อนุโมทนา วัดติดป้ายไม่ขอรับเงิน ไม่รับกฐิน ไม่เอาไฟฟ้า ไม่เอาเรี่ยไร ไม่ต้องการเงินใด ๆ ขอเดินทางสายพระป่าอย่างเคร่งครัด

ภาพจาก หลวงปู่ทุย

- สำนักนี้ไม่มีบอกบุญ ไม่มีเรี่ยไร ไม่มีการชวนบริจาค ไม่มีชำระหนี้สงฆ์อะไรทั้งสิ้น ไม่ขอ ไม่ตั้งตู้ให้ญาติโยมหยอดเหรียญทำบุญประจำวันเกิดเพื่อหาเงินเข้าวัด ไม่จัดงานหาเงินหาปัจจัยเข้าวัด

 

- วัดจะไม่ใช้ไฟฟ้าและจะไม่ให้มีการต่อไฟฟ้าเข้ามาในวัดอย่างเด็ดขาด

 

- วัดไม่มีระบบประปา พระเณรจะช่วยกันไปตักน้ำมาจากบ่อบาดาลมาใส่โอ่งใส่ตุ่มไว้ใช้ ดังนั้นไม่มีค่าน้ำประปา ไม่ต้องถวายปัจจัย

 

- หลวงปู่ทุยสั่งไปทางหน่วยงานราชการว่าไม่ต้องให้ยศให้ตำแหน่งสมณศักดิ์แก่ท่าน ขอเป็นพระเฉย ๆ ก็พอแล้ว และทางวัดก็จะไม่รับกฐิน เพราะไม่มีค่าใช้จ่าย จึงไม่ต้องใช้เงิน

คนแห่อนุโมทนา วัดติดป้ายไม่ขอรับเงิน ไม่รับกฐิน ไม่เอาไฟฟ้า ไม่เอาเรี่ยไร ไม่ต้องการเงินใด ๆ ขอเดินทางสายพระป่าอย่างเคร่งครัด

ข้อมูลจาก เว็บไซต์ มัชฌิมา
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ธรรมะ-ชาติ-ชีวิต , เฟซบุ๊ก Setthavit Kaewsrisuk