"ภราดร"เปิดใจแล้วเหตุขายรถหรูคันเดียวในไทย หลังโดนตั้งคำถามตกอับ?

หลังจากที่ "ซูเปอร์บอล" ภราดร ศรีชาพันธุ์ นักเทนนิสขวัญใจชาวไทย อดีตนักหวดมือ9ของโลก เจ้าของเเชมป์ระดับบเอทีพีทัวร์ 5รายการ ได้ออกมาประกาศขายรถหรูคู่ใจมีคันเดียวในประเทศไทย ลั่นเนื้อคู่ ทักมาได้เลยครับ

(อ่านข่าว "ภราดร" ประกาศขายรถหรูคู่ใจมีคันเดียวในประเทศไทย เนื้อคู่ทักมาได้เลย)

ล่าสุด "ภราดร ศรีชาพันธุ์" ออกมาเปิดใจถึงเรื่องดังกล่าวว่า สาเหตุที่ประกาศขายรถคันนี้ ไม่ได้เกี่ยวกับวิกฤตโควิด-19 แต่เนื่องจากเป็นรถที่ไม่ตนไม่ได้ขับและไม่มีเวลาใช้รถ ประกอบกับวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป โดยส่วนใหญ่จะจอดไว้ที่คอนโดมิเนียมในกรุงเทพมหานคร บางครั้งเดินผ่านรถก็แทบไม่มีเวลาสตาร์ทเครื่องยนต์ จึงคิดว่าหากจอดทิ้งไว้แบบนี้ไปเรื่อยๆ จะไม่เป็นผลดีต่อรถ

จึงถือโอกาสในวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันตรุษจีน ประกาศขายรถคันนี้ลงในอินสตาแกรมของตนเอง เพื่อส่งต่อความสุขและรถให้กับคนที่รักรถรุ่นนี้และอยากสะสมรถรุ่นนี้จริงๆ โดยตั้งราคาไว้ที่ 11.5 ล้านบาท เจ้าตัวยังได้เผยอีกว่า รถคันนี้เป็นคันแรกที่ซื้อมา ตั้งแต่ปี 2004 ซึ่งเป็นรถเฟอร์รารี 360 รุ่นสุดท้ายของยุคนั้น หลังซื้อมาก็มีคนมาขอซื้อต่อ ประกอบกับเป็นช่วงที่ตนเองสลับสับเปลี่ยนรถซูเปอร์คาร์ไปหลายคันจึงไม่ได้ใช้รถคันนี้

ผ่านไปประมาณ 4 ปี ตนก็ไปซื้อรถคันนี้กลับมาอีกครั้ง เพราะมองว่ารถเฟอร์รารีรุ่นที่ปีลึกๆ จะเริ่มเป็นรถคลาสสิคที่เหมาะกับคนที่รักรถรุ่นนี้และเหมาะกับการสะสม รวมทั้งราคารถรุ่นนี้ก็จะขยับขึ้นเรื่อยๆ ที่สำคัญรถรุ่นนี้ถือเป็นรถคันเดียวในประเทศไทย ที่เป็นแบบมีหลังคาแข็งที่ไม่สามารถเปิดหลังคาได้ เป็นคันเดียวในไทยที่เป็นสีเหลือง ซึ่งรุ่นหลังจากนี้ก็จะมีการออกแบบและใช้เครื่องยนต์อีกตัว

"ภราดร" ไม่ได้ตกอับหรือไม่มีเงินแต่อย่างใด เจ้าตัวดูแลธุรกิจบ่อตกปลา ชื่อบ่อตกปลาศรีชาพันธุ์ และยังมีธุรกิจที่พัก รีสอร์ต ที่อำเภอบ้านฝาง จังหวัดขอนแก่น นอกจากนี้ ยังดูแลในเรื่องกีฬาเทนนิสทั้งที่ขอนแก่นและกรุงเทพฯ โดยหลักๆ คือ การดูแลน้องๆ นักกีฬาในระดับทีมชาติ แถมปีนี้ยังได้รับเลือกให้ทำหน้าที่เป็นกัปตันเดวิส คัพ ของทีมชาติไทยอีกครั้งหนึ่ง รวมไปถึงงานปั้นนักกีฬาเทนนิสก็ทำอยู่อย่างต่อเนื่อง