- 07 ก.พ. 2565
กรมการแพทย์ออกมาชี้แจงแล้ว กรณีผู้ป่วยเป็นหญิงตั้งครรภ์ 9 เดือน ติดเชื้อโควิด-19 แล้วไม่มีโรงพยาบาลรับรักษา
จากกรณี กลางดึกคืนที่ผ่านมา นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ช่วย ส.ส.เขตสายไหม / ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจาก "สาวท้อง 9 เดือน ติดโควิด" มีอาการเจ็บท้องใกล้คลอด จึงเดินทางลงพื้นที่พร้อมทีมสายไหมต้องรอดโดยเร่งด่วน ไปยังบ้านเลขที่ 72 (ปากทางเข้าคอนโดบลอสซั่ม) ถนนเจริญราษ 3 แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร เมื่อไปถึง พบว่าบ้านหลังดังกล่าวมีผู้อยู่อาศัยทั้งหมด 4 คน ติดเชื้อโควิดแล้ว 3 คน อยู่ระหว่างกักตัวรอดูอาการอีก 1 คน หนึ่งในผู้ติดเชื้อ คือ หญิงสาวตั้งท้อง 9 เดือน มีอาการเหนื่อยหอบ แขนขาอ่อนแรง อาเจียนตลอดทั้งวัน เมื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียดพบว่า ค่าอ๊อกซิเจนในเลือดต่ำอยู่ที่ 92 มีไข้ 37 องศา และเริ่มมีอาการเจ็บท้องใกล้คลอด โดยวันนี้ทั้งวัน ผู้ป่วยและญาติๆพยายามติดต่อหาโรงพยาบาลเพื่อทำคลอดแต่ไม่มีที่ไหนรับ แม้กระทั้ง รพ.ยันฮี ที่ผู้ป่วยไปฝากท้องไว้ ก็ปฏิเสธการรักษา โดยให้เหตุผลเพียงว่า ทาง รพ.ไม่มีนโยบาลทำคลอดคนติดเชื้อโควิด ต้องรักษาตัวให้หายก่อนจึงจะมาคลอดที่ รพ.ได้ จนกระทั้งช่วงค่ำ จึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือไปยัง ทีมสายไหมต้องรอด เพื่อให้เข้ามาช่วยเหลือ
ด้านคุณเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ช่วย ส.ส.เขตสายไหม /ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า หลังรับแจ้งตนได้โทรศัพท์ไปประเมินอาการผู้ป่วยด้วยตัวเอง พบว่า ผู้ป่วยมีอาการไอตลอดเวลา หายใจเหนื่อยหอบ พูดเป็นประโยคยาวๆไม่ได้ และอาเจียนมาตลอดทั้งวัน ที่สำคัญมีอาการเจ็บท้องเหมือนคนใกล้คลอด จึงถือได้ว่าเป็นเคสที่เข้าข่ายสี่เหลืองเข้ม ตนพร้อมทีมงานจึงรีบเดินทางมาให้การช่วยเหลือ โดยใช้เวลาประสานหา รพ.ประมาณ 2 ช.ม. ศูนย์เอราวัณ จึงประสาน รพ.เลิศสิน ส่งรถพยาบาลมารับผู้ป่วยเข้ารับการรักษา
เมื่อเดินทางไปถึง รพ.พบว่าปากมดลูกเปิด 1.5 เซนติเมตร แพทย์จึงพาผู้ป่วยเข้าห้องคลอดเตรียมผ่าตัดทำคลอดโดยด่วน ในช่วงเช้าของวันนี้ ถือว่าทีมสายไหมต้องรอดมาช่วยเหลือได้อย่างหวุดหวิด
ล่าสุดทาง กรมการแพทย์ ได้ออกมาชี้แจงกรณีผู้ป่วยตั้งครรภ์ 9 เดือนติดเชื้อโควิด 19 ไม่มีโรงพยาบาลรับรักษา
กรมการแพทย์ เปิดเผยว่า กรณีที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ว่าผู้ป่วยตั้งครรภ์ติดเชื้อโควิด 19 ใกล้คลอด แต่ไม่มีโรงพยาบาลรับรักษานั้น ขอชี้แจงว่า ข้อเท็จจริงในผู้ป่วยรายนี้เป็นผู้ป่วยหญิงอายุ 32 ปีตั้งครรภ์อายุครรภ์ 9 เดือนและมีประวัติเคยผ่าคลอดมาก่อน ได้ฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ต่อมาพบบุคคลในครอบครัวติดเชื้อโควิด 19 จึงตรวจ ATK ด้วยตนเองให้ผลบวกและมีอาการเจ็บครรภ์จึงได้ติดต่อไปยังโรงพยาบาลเอกชนที่ตนฝากครรภ์เพื่อเข้ารับการรักษา ทว่าโรงพยาบาลเอกชนรายดังกล่าวปฏิเสธการทำคลอดผู้ป่วยโควิด 19 จึงทำให้ผู้ป่วยซึ่งมีสิทธิประกันสังคมโรงพยาบาลเลิดสิน ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2565 ได้ติดต่อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเลิดสิน ในเบื้องต้นแพทย์ได้ทำการตรวจ RT-PCR เพื่อยืนยันก่อนเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและประเมินอาการผู้ป่วยซึ่งพบว่าขณะนั้นผู้ป่วยไม่พบอาการผิดปกติอื่น โรงพยาบาลได้แนะนำให้ผู้ป่วยสังเกตอาการที่บ้านเพื่อรอผลตรวจ RT-PCR ก่อนนำเข้าสู่กระบวนการรักษาต่อไป ต่อมาในช่วงค่ำของวันเดียวกันผู้ป่วยเริ่มมีอาการเจ็บครรภ์และเริ่มมีอาการคลื่นไส้อาเจียนจึงได้ติดต่อไปยังศูนย์เอราวัณ ทางศูนย์เอราวัณจึงนำส่งโรงพยาบาลเลิดสิน โรงพยาบาลรับผู้ป่วยตอนเวลาเที่ยงคืนประเมินอาการเบื้องต้นพบว่า ผู้ป่วยอาการคงที่ไม่มีมดลูกหดตัว ไม่มีน้ำเดิน ระดับออกซิเจนในเลือดปกติ ไม่พบอาการผิดปกติอื่น จึงรับไว้สังเกตอาการ เพื่อวางแผนการรักษาสำหรับการผ่าตัดคลอดต่อไป
ล่าสุดเพจเฟซบุ๊ก กรมการแพทย์ ได้ออกมาชี้แจงดังนี้
ทั้งนี้ ได้มีการวางระบบการดูแลสตรีตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อ โควิด 19 ในเขตกรุงเทพมหานคร ตามที่มีการหารือร่วมกันในที่ประชุมเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลและป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาลในเขตกรุงเทพมหานคร
สำหรับผู้ป่วยรายนี้ตามระบบแล้วควรจะได้รับการดูแลเบื้องต้นจากโรงพยาบาลที่รับฝากครรภ์ก่อน หากเกินศักยภาพของโรงพยาบาลจึงค่อยส่งต่อไปยังสถานพยาบาลที่รับผิดชอบดูแลตามพื้นที่ที่แบ่งไว้
กรมการแพทย์ขอความร่วมมือไปยังโรงพยาบาลเอกชน ขอให้ช่วยดำเนินการตามแนวทางระบบที่ได้วางไว้ และขอให้ทุกภาคส่วนรายงานข้อเท็จจริงตามความเป็นจริงเพื่อให้ประชาชนได้รับข่าวสารที่ถูกต้อง โดยไม่ทำให้สังคมตื่นตระหนกเกินควร สุดท้ายนี้กรมการแพทย์ขอขอบคุณประชาชนทุกท่านที่ให้ความร่วมมือในการป้องกันโรคโควิด 19 รักษาระยะห่าง ใส่หน้ากาก ล้างมือ และให้ความร่วมมือในการฉีดวัคซีน
****************************** #กรมการแพทย์ #ทำดีที่สุดเพื่อทุกชีวิต #โควิด19
7 กุมภาพันธ์ 2565