โฆษก บชน. แถลงคดี สาวลอยเจ้าพระยา หมอตอบชัดๆ ถึงรอยแผลที่ถูกตัดขาด

โฆษก บชน. แถลงคดี  น.ส.มณีรัตน์ สาวลอยเจ้าพระยา ได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่องกับกรณีที่ทำชาวบ้านขวัญผวา เมื่อเจ้าหน้าที่ พบร่างหญิงสาวนิรนามลอยอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนจะชุดคลี่คลายคดีได้กระจายกำลังเร่งสืบหาเบาะแสเกี่ยวกับตัวผู้เสียหายชีวิตอย่างเร่งด่วน  เพื่อพิสูจน์ทราบให้ได้ว่าคือบุคคลใด 

ต่อมาจะได้รับแจ้งที่ทำให้เชื่อได้ว่าศพหญิงสาวนิรนามกระทั่งยืนยันได้ว่าคือ น.ส.มณีรัตน์ กระจกภาพ อายุ 28 ปี หลังมีบุคคลในครอบครัวเข้ามายืนยันกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า รอยรูปพรรณโดยเฉพาะรอยสักด้านหลัง รวมถึงสีเล็บและเครื่องประดับต่างๆ ที่พบบนตัวศพ ตรงกับ น.ส.มณีรัตน์ ซึ่งหายตัวไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 ก.พ. ที่ผ่านมา 

กระทั่งชุดสืบสวนได้ข้อมูลจากคนในครอบครัวว่า น.ส.มณีรัตน์ ขึ้นรถแท็กซี่ออกจากบ้านย่านมีนบุรี กรุงเทพฯ ในช่วงเช้าของวันที่ 7 ก.พ.  เมื่อชุดสืบสวนไล่ดูภาพกล้องวงจรปิดในเส้นทาง พบหลักฐานว่า น.ส.มณีรัตน์ ลงรถเเท็กซี่ บริเวณสะพานพระราม 8 ฝั่งพระนคร กรุงเทพฯ จากนั้นเดินขึ้นไปบนสะพานพระราม 8 จนพบเป็นศพ และชิ้นส่วนลอยน้ำ 

- กล้องวงจรปิดจับภาพเบาแสสำคัญ สาวลอยเจ้าพระยา ส่อคดีพลิก อาจเกิดเหตุร้ายเพราะทำตัวเอง 

- ชนวนเหตุ สาวลอยเจ้าพระยา เสียชีวิต ก่อนพบชิ้นส่วนกระจัดกระจายลอยเกลื่อนแม่น้ำ 

ล่าสุด โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล เผย คดีพบชิ้นส่วนมนุษย์ในพื้นที่ สน.บางกอกน้อย บุปผาราม และ ตลิ่งชัน  ตำรวจให้แนวโน้มไปในเรื่องการกระทำด้วยตนเองเสียมากกว่า เนื่องจากพบพยานหลักฐานหลายส่วนที่บ่งชี้ว่าอาจไม่ใช่การถูกทำร้าย และขอให้รอสรุปหลังการประชุม

โดย พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามสืบสวนสอบสวนในคดีพบชิ้นส่วนศพหญิงสาวกระจายอยู่ในหลายพื้นที่ของ 3 พื้นที่ สน. ซึ่งคดีดังกล่าว ขณะนี้สน.บางกอกน้อยเป็นผู้รับดูแลคดีทั้งหมด โดยระบุว่าคดีนี้ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดว่าผู้เสียชีวิต เสียชีวิตเนื่องจากอะไร

ในส่วนของข้อมูลที่มีการเปิดเผยมาช่วงเช้าวันนี้ว่า ผู้เสียชีวิตกระโดดแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยตนเอง ก่อนที่จะถูกใบพัดขนาดใหญ่ของเรือตัดชิ้นส่วนของร่างกาย ขณะนี้ตำรวจได้ให้ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบร่องรอยบาดแผลแล้วว่า เกิดขึ้นจากใบพัดของเรือ หรือเกิดขึ้นจากการชำแหละของบุคคลอื่น

เมื่อถามว่าขณะนี้แนวโน้มของคดีดังกล่าวไปในทิศทางใดโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล ยอมรับว่าคดีนี้ในช่วงแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจให้น้ำหนักไปในเรื่องของการถูกทำร้ายมากกว่า แต่ภายหลังจากตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆ ที่พบในที่เกิดเหตุและการสอบปากคำพยานหลายปาก พบว่ามีแนวโน้มเป็นไปในเรื่องการเสียชีวิตด้วยตนเองมากกว่า

อย่างไรก็ตาม ทางผู้บัญชาการตำรวจนครบาลยังไม่สรุปประเด็นใดๆ หรือตัดประเด็นใดๆ ทิ้งไปอย่างสิ้นเชิง จึงจะต้องรอการประชุมคดีวันนี้ว่าพยานหลักฐานที่มีอยู่ชี้ไปในทิศทางใด

 

ก่อนหน้านี้ นพ.วีรศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มศว เปิดเผยว่า จากรณีพบศพหญิงสาวปริศนานั้น ถ้าเทียบกับการดูชิ้นส่วนของศพแล้ว คาดว่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 1-2 วัน เนื่องจากบริเวณผิวหนังของตัวศพเริ่มมีการหลุดลอกออก อวัยวะเริ่มบวมอืด เนื่องจากพบศพบริเวณในน้ำ ซึ่งเน่าช้ากว่าพบบนดิน

 

ซึ่งบาดแผลดังกล่าวจะต้องมีการประเมินว่าเกิดขึ้นก่อนหรือหลังเสียชีวิต เท่าที่ดูจากร่องรอยคาดว่ามีบางส่วนเกิดขึ้นหลังจากเสียชีวิตแล้ว อาจจะกระทบกับกระแสวัตถุในน้ำ รวมถึงอาจถูกใบพัดเรือทำให้เกิดบาดแผล ซึ่งบาดแผลศพรายนี้ไม่พบในเหยื่อที่ถูกหั่นทั่วไป เนื่องจากหั่นยังไม่ขาดชิ้นส่วน ซึ่งควรจะหั่นตามตำแหน่งที่สามารถตัดออกจากกันได้

 

 พบว่าขอบของบาดแผลไม่ได้เรียบเสียส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบาดแผลบริเวณศีรษะ คือรอยตัดของกะโหลกยังไม่เรียบ ต่างจากการฆาตกรรมเคสอื่นที่จะตัดกระดูกบริเวณกระดูกสันหลังบริเวณต้นคอ รวมถึงร่องรอยบาดแผลตามแขน ไม่ได้มีรอยขาดกัน ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้ทั้ง 2 สาเหตุ