- 14 ก.พ. 2565
สภาการพยาบาล แจงหญิงนำ ATM คนไข้ไปกดเงินไม่ใช่พยาบาล วอนสื่อแก้ไขข้อมูลเพื่อไม่ให้วิชาชีพการพยาบาลเสื่อมเสีย
สภาการพยาบาล แจงหญิงนำ ATM คนไข้ไปกดเงินไม่ใช่พยาบาล สืบเนื่องจากที่เกิดกรณีผู้ป่วยที่พักรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี พบว่าบัตรเอทีเอ็มในกระเป๋าสตางค์หายไป และมีการถอนเงินออกจากบัญชี ซึ่งต่อมา นางวิไลวรรณ อายุ 35 ปี ลูกสาวผู้ป่วย เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.บางละมุง เพื่อดำเนินคดี
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
โดย นางวิไลวรรณ ระบุว่า คุณพ่อนอนรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู โรงพยาบาลบางละมุง ตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม ที่ผ่านมา บัตรเอทีเอ็มของคุณพ่อถูกขโมยไปกดเงินสด จำนวน 4,500 บาท ทั้งที่ไม่สามารถลุกไปกดเงินเองได้ โดยนอนรักษาตัวอยู่ 14 วัน ซึ่งทางโรงพยาบาลงดเยี่ยมทุกกรณี กระทั่งคุณพ่อเสียชีวิต ทางโรงพยาบาลติดต่อให้ญาติมารับทรัพย์สินผู้เสียชีวิตกลับ
แต่เมื่อตรวจสอบในกระเป๋าสตางค์ พบว่าบัตรเอทีเอ็มหายและถูกกดเงินออกไป ธนบัตรเก่าสะสมก็หายไปด้วย ทั้งนี้ ตำรวจติดตามภาพจากกล้องวงจรปิด ตู้ ATM ที่คนร้ายกดเงินตามเวลาที่แจ้งความ พบเป็นผู้หญิงผมสั้น จากนั้นสืบสวนจนรู้ตัวผู้กระทำคือ น.ส.ศิริพรรณ ลำยูง อายุ 29 ปี เป็นพยาบาลอัตราจ้างที่ประจำอยู่ตึกผู้ป่วย ทำงานมานานกว่า 10 ปีแล้ว และเป็นผู้ดูแลคุณพ่อของผู้เสียหาย
ด้าน น.ส.ศิริพรรณ ผู้ต้องหายอมรับว่า ขโมยบัตรเอทีเอ็มของผู้ป่วยไปกดเงินจริง ขโมยไปกดเงิน 2 ครั้ง เหตุผลที่ทำแบบนี้เพราะอารมณ์ชั่ววูบ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการเงินในครอบครัว เงินไม่พอใช้ มีรายจ่ายเยอะ จึงต้องหาทางออกด้วยวิธีนี้ และยอมรับว่าทำแบบนี้เป็นครั้งแรก พร้อมกราบขอโทษญาติผู้ป่วย
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ทั้งนี้ ตำรวจแจ้งขอกล่าวหา ลักทรัพย์ในสถานที่ราชการ และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนและนำไปเบิกถอนเงินสด
ขณะที่ญาติของผู้เสียชีวิต เผยว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้บริหารของโรงพยาบาลบางละมุง ติดต่อมาแต่อย่างใด ญาติยังรอความรับผิดชอบจากโรงพยาบาลอยู่ ซึ่งก่อนหน้านี้ รอง ผอ.โรงพยาบาล ได้แจ้งกับญาติว่าหากผู้ก่อเหตุเป็นคนของโรงพยาบาลจริง ยินดีที่จะรับผิดชอบทุกอย่างและออกมาขอโทษ จึงขอให้รีบออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ล่าสุด เฟซบุ๊ก คณะกรรมการประชาสัมพันธ์ สภาการพยาบาล มีการออกมาชี้แจงว่า "จากกรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวตามสื่อต่างๆ ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 ว่ามีพยาบาลนำบัตร เอทีเอ็ม ของผู้ป่วยไปกดเงินสด ระหว่างผู้ป่วยรักษาตัวในห้องไอซียูของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรีนั้น สภาการพยาบาลได้ตรวจสอบแล้วพบว่า ผู้กระทำการดังกล่าวมิใช่ผู้ประกอบวิชาชีพพยาบาล แต่เป็นพนักงานช่วยเหลือคนไข้
การที่สื่อสารมวลชนใช้การพาดหัวข่าวหรือให้ข้อมูลแก่สาธารณชนว่าผู้กระทำเป็นพยาบาล ทำให้เกิดความเข้าใจผิดและความเสื่อมเสียต่อวิชาชีพการพยาบาล จึงได้แจ้งต่อประธานสภาสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทยเพื่อขอให้สื่อแก้ข้อความ และให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่สาธารณชนต่อไป"