- 17 ก.พ. 2565
เรียกว่าเป็นข่าวสะเทือนใจคนไทยเป็นอย่างมาก หลังจากที่ทางด้านของ ขวัญ พิมพ์อัปสร เทียมเสวต ลูกสาวของ สรพงษ์ ชาตรี" ที่เกิดกับ โย ทัศน์วรรณ ได้ออกมาเปิดเผยว่า ข่าวที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง คุณพ่อป่วยเป็นมะเร็งมาได้สักพัก
เรียกว่าเป็นข่าวสะเทือนใจคนไทยเป็นอย่างมาก หลังจากที่ทางด้านของ "ขวัญ พิมพ์อัปสร เทียมเสวต" ลูกสาวของ "สรพงษ์ ชาตรี" ที่เกิดกับ "โย ทัศน์วรรณ" ได้ออกมาเปิดเผยว่า "ข่าวที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง คุณพ่อป่วยเป็นมะเร็งมาได้สักพัก ตอนนี้รักษาตัวอยู่อาการก็ดีขึ้น แต่ช่วงนี้เป็นช่วงการระบาดโควิด เลยไม่ได้ไปเยี่ยมได้แต่ถามผ่านทางญาติ ที่ผ่านมาคุณพ่อก็ไม่ได้บอกใคร เพราะคงไม่อยากจะให้เป็นห่วง"
โดยหลังจากที่เรื่องราวอาการป่วยมะเร็งของพระเอกตลอกดาลเผยแพร่ออกไปนั้น บรรดาแฟนๆก็แสดงความเป็นห่วงเป็นใย จนทางด้านของ "พี่หง่าว ยุทธนา" หรือ "ยุทธนา มุกดาสนิท" ศิลปินแห่งชาติและเพื่อนร่วมรุ่น ที่เข้าวงการบันเทิงไล่เลี่ยกันในการร่วมงานกับ "ท่านมุ้ย" หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ได้เขียนส่งกำลังใจ ถึงเพื่อนผู้มากน้ำใจ อย่าง "เอก สรพงษ์" หรือ "สรพงษ์ ชาตรี" ในวาระที่เพิ่งได้ทราบข่าวว่าเขาป่วยหนัก จึงขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และผลจากการกระทำดีของเอกเอง จงช่วยคุ้มครองให้เขาผ่านเหตุการนี้ไปได้ด้วยดี เทอญ"
ดังนั้น ในวาระที่เพิ่งได้ทราบข่าวว่าเขาป่วยหนัก จึงขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และผลจากการกระทำดีของเอกเอง จงช่วยคุ้มครองให้เขาผ่านเหตุการนี้ไปได้ด้วยดี เทอญ"
จากความห่วงใยจากเพื่อนๆในวงการและบรรดาแฟนคลับนั้น ทางไทยนิวส์ออนไลน์จะพาไปดูความคืบหน้าอาการป่วยล่าสุด "สรพงษ์ ชาตรี" กับอาการที่เจ้าตัวนั้นกำลังต่อสู้ รวมถึงว่าเจ้าตัวนั้นไปเริ่มเป็นมะเร็งตอนไหน โดย "True Inside" ได้เปิดเผยอาการล่าสุดโดย "ไทด์ เอกพันธ์" หลังจากที่เคยไปเยี่ยมมาหนนึง อาการตอนนี้พี่เอกแข็งแรงดี รักษาไปตามอาการ ที่เจอร่างกายซูบผอมลงนิดนึง พี่เอกเป็นแบบนี้ก็ตกใจ ให้กำลังใจ แต่แกสู้อยู่เเล้ว เพราะดูจากลักษณะแล้วน่าจะหายวันหายคืน แกน่าจะผอมลงสักประมาณ 6-7 กิโล อาการดีขึ้นหน้าตาแจ่มใส ไปนั่งปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิตลอด บุญกุศลที่แกได้ทำมาจะทำให้โรคร้ายนี้มันหายไป แรงใจ กำลังใจ ล้นหลามเหลือเฟือ ด้านภรรยาเขาก็ดูแลอย่างใกล้ชิด
ล่าสุดยังไม่ได้ไปเจอ เพราะไม่อยากเข้าไปเพราะโควิด แต่พี่บิณฑ์ไปล่าสุดมาก็ยังเหมือนเดิม ครั้งแรกทางคุณเดือนเล่าให้ฟังว่า 2-3 ปีที่เเล้ว พี่เอก เขาเป็นมะเร็งที่ลำไส้ ไปตัดเรียบร้อยเเล้วก็หายไปเเล้ว แต่เมื่อปีที่เเล้วกลับมาเป็นอีก ไม่ทราบว่าลามมาตรงไหนบ้าง แต่เขาก็พยายามที่จะรักษาเเละต่อสู้ ผมคิดว่าอีกไม่นานน่าจะหาย เพราะว่าโดยทั่วไปก็เเข็งแรง เดินได้ ต้องประคองตอนลงบันไดนิดหน่อย"
ด้าน “ฤทธิ์ ฤาชา” ก็ออกมาเปิดเผยอาการของสรพงษ์ ผ่าน “เดลินิวส์ออนไลน์” ว่าทางด้านของสพงษ์นั้นป่วยมะเร็งขึ้นเมื่อ 2 ปีที่แล้วเขาเป็นมะเร็งที่ปอด ก็รักษาไปจนหาย แต่มันก็กลับมาใหม่เป็นที่สมองตามที่เป็นข่าว จากนั้นเขาก็เริ่มเก็บตัว ปีหนึ่งคือหยุดเล่นละครไปเลย เขาไม่ได้ออกไปไหน ไม่ได้พบกันเลย ไหนจะโควิดอีกก็ไม่มีใครไปหาเพราะห่วงเขาจะติดเชื้อแล้วยาวไป และเขาเองก็ไม่อยากบอกใครเพราะไม่อยากให้ใครเดือดร้อนและทุกข์ใจไปกับเขา เขาดีมากๆ”
โดยสรพงษ์นั้น คิดว่ารักษาไปหายราวๆ ปี 63 ที่บอกไป เขาเจอตอนไปตรวจที่โรงพยาบาล แล้วพอดีมีก้อนเนื้อ ก็ไปผ่าที่โรงพยาบาลรามาฯ นิดเดียวเอง ระหว่างนั้นก็เก็บตัว ไม่มีใครรู้ จนหาย ก็กลับมารับงานในวงการอีก เล่นละครไป แต่หลังๆ เขาจำบทไม่ได้ เพราะมันกินสมอง ก็เพิ่งเป็นเร็วๆ นี้แหละ ที่จำบทไม่ได้ ก็เลยไปตรวจและรู้ว่าเป็นมะเร็งอีก แต่ขั้นไหนระยะไหนผมไม่รู้จริงๆ และผมก็ไม่อยากให้ใครไปเยี่ยม เขาเองก็เช่นกัน กลัวติดโควิดและอะไรหลายๆ อย่าง”
นอกจากนี้ทางด้านของ นางสาวชั้น เทียมเสวต อายุ 81 ปี พี่สาวคนที่ 2 ของ “สรพงษ์ ชาตรี” เปิดเผยอาการป่วยน้องชายหลังเพิ่งเดินทางไปเยี่ยมว่า เห็นข่าวแล้วตกใจเพราะเพิ่งไปเยี่ยมพร้อมกับพี่ชายเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่บ้านพักในกรุงเทพฯ น้องชายยังดูแข็งแรงและหล่อเหมือนเดิม แต่พูดน้อยลง พร้อมยังหยอกล้อกันว่า พี่ดูหัวให้ผมหน่อยไปฉายแสงมาหัวผมไหม้ไหม
โดยทราบว่าสรพงษ์ป่วยมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ไม่ได้บอกใครเพราะไม่อยากให้ใครเป็นห่วงประกอบกับโควิดระบาด ขนาดตนต้องฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ถึงไปเยี่ยมได้ เป็นห่วงน้อง ซึ่งที่ผ่านมาภรรยาและครอบครัวก็ดูแลน้องชายเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ น้องชายเคยบอกว่าตั้งใจจะบวชพระ เพราะยังไม่ได้บวช เคยแต่บวชเณร แต่สุดท้ายก็สึกออกมาเป็นนักแสดง และไม่ได้กลับไปบวชอีก ก่อนหน้านี้น้องชายตั้งใจสร้างพระพุทธรูปและวิหารที่วัดหลวงพ่อโต อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ให้เสร็จสมบูรณ์แล้วจะบวช แต่ก็มาล้มป่วยก่อน
โดยจากการไล่เรียงข้อมูลของทางไทยนิวส์ออนไลน์ สำหรับอาการป่วยมะเร็งของสรพงษ์นั้นจะพบว่า เจ้าตัวพบมะเร็งเมื่อ 2ปีก่อน แต่คิดว่ารักษาหายไปแล้ว ส่วนสาเหตุหลักที่ไม่ได้บอกใครเพราะไม่อยากให้แฟนคลับหรือแม้แต่ญาติพี่น้องเป็นห่วง