"หมอนิธิพัฒน์"ลั่น บุคลากรทางการแพทย์ ให้รีบพักร้อน อีกสองเดือน งานใหญ่

"หมอนิธิพัฒน์" รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล ได้ออกมาโพสต์ข้อความให้ ความรู้เกี่ยวกับ โควิด-19 สัปดาห์หน้าและสัปดาห์โน้น จะเห็นการไปต่อของสามตัวชี้วัดอันหลังนี้

"หมอนิธิพัฒน์" รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล ได้ระบุข้อความว่า 

สัปดาห์หน้าและสัปดาห์โน้นคงน่าจะเห็นการไปต่อของสามตัวชี้วัดอันหลังนี้ เพราะกว่าจะเห็นผลต้องใช้เวลา 1-2 สัปดาห์ บุคลากรทางการแพทย์ที่หวังจะไปเที่ยวพักร้อนกันในอีกหนึ่งถึงสองเดือนข้างหน้า ควรรีบไปเสียตอนนี้ ช้าอาจต้องคืนตั๋วคืนที่พัก เพราะเพื่อนร่วมงานเรียงหน้าผลัดกันป่วย แถมงานเข้าจากผู้ป่วยโควิดรุนแรงที่กำลังเพิ่มขึ้น ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อภาคการแพทย์คงจะไม่ไหว สัปดาห์นี้ถ้าไม่เห็นแนวโน้มดีขึ้น คงต้องเข้มงวดมาตรการขึ้นบ้างเพื่อลดการออกนอกบ้านของผู้คน มิฉะนั้นอาจจะต้องเดินพร้อมกุมขมับตามหลังหลายประเทศในเอเชียซึ่งเผชิญอยู่ในขณะนี้ แม้แต่ยักษ์ใหญ่อย่าง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และฮ่องกง ยังสะเทือน

 

"หมอนิธิพัฒน์"ลั่น บุคลากรทางการแพทย์ ให้รีบพักร้อน อีกสองเดือน งานใหญ่

นอกจากการถูกบุลลี่จากคนในและคนนอกเรื่องเกี่ยวกับโควิดตามที่กล่าวไปแล้ว บุคลากรทางการแพทย์ที่เน้นหนักเรื่องการทำวิจัย ยังมีโอกาสถูกบุลลี่จากเจ้านายในหน่วยงานด้านวิจัยที่ตัวเองสังกัดหรือจำเป็นต้องไปเข้าสังกัด

หน่วยงานด้านวิจัยสำคัญๆ ของทั้งอเมริกาและอังกฤษ ล้วนโดนร้องเรียน และมีการสอบสวนบุคคลที่ถูกอุปโลกน์ให้คนอื่นเรียกว่าเป็น “เจ้านาย” ของหน่วยงาน โดยพบว่าคนที่ใส่หัวโขนใหญ่สุดกลับทำตัวเป็นยักษ์มารมากกว่าเป็นตัวพระ (ไม่เกี่ยวกับศึกในสภาและนอกสภา ระหว่างพระราม สีดา และทศกัณฐ์ ที่กำลังมันส์หยดขณะนี้)

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานวิจัยแห่งหนึ่งที่ขึ้นชื่อของอังกฤษ พบว่า 61% เคยถูกบุลลี่หรือถึงขั้นถูกทำให้เสื่อมเสีย แต่มีเกินครึ่งของคนที่มีประสบการณ์แย่ๆ นี้ ที่กล้าเปิดเผยเรื่องราวความเป็นจริงออกมา กว่าสามในสี่ของนักวิจัยเห็นว่า “วัฒนธรรมองค์กรการวิจัยที่แข็งกระด้าง” นี้ ช่วยบดบังความคิดสร้างสรรค์ที่จำเป็นสำหรับการดำเนินงานวิจัยไปเสียมากทีเดียว จนทำให้ผู้เกี่ยวข้องเน้นหนักกันแต่เรื่องปริมาณมากกว่าคุณภาพของงานวิจัย แรงกดดันทุกด้านของผู้บริหารหน่วยงานวิจัยที่ส่วนใหญ่มักเป็นเพศชายเสียด้วย ทำให้นักวิจัยหน้าใหม่ต้องทำตัวลีบ ไม่มีปากไม่มีเสียงก้มหน้าก้มตาผลิตผลงาน เพราะกลัวจะไม่ได้รับค่าตอบแทนที่มากพอและไม่ได้รับการส่งเสริมให้ก้าวหน้าต่อไป ใครที่ทนไม่ไหวก็ออกจากเส้นทางนี้ไป ใครที่อยู่ได้ก็ปรับตัวกันไป มีส่วนน้อยที่อาจเลือกการดัดแปลงผลงานวิจัยจนผิดรูปเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมาย จนเกิดเป็นเรื่องเป็นราวเมื่อถูกจับได้และถูกลงโทษทั้งในเชิงจริยธรรมและในทางกฎหมาย ทั้งหลายทั้งปวงนี้ ล้วนมีบ่อเกิดมาจากการไม่รู้จักควบคุมอัตตาในตัวของมนุษย์ ไม่ยึดมั่นในศีลธรรม และไม่แน่นเหนียวกับการปฏิบัติตามหลักจริยธรรมแห่งวิชาชีพ 

แม้จะชนะแบบเสียไปถึงสองเม็ด พวกเราสาวกปิศาจแดงก็จะไม่บุลลี่ทีมคู่แข่งใกล้เคียง ก้มหน้าก้มตารับคำวิจารณ์และเดินสู่จุดหมายต่อไป ให้เหมือนการเผชิญกับโควิดก่อนกลายเป็นโรคประจำถิ่น และเหมือนท้องฟ้าสงบเย็นก่อนอาทิตย์อัสดง

#เดินหน้าต่อไปไม่หวั่นไหวโควิด

"หมอนิธิพัฒน์"ลั่น บุคลากรทางการแพทย์ ให้รีบพักร้อน อีกสองเดือน งานใหญ่