- 19 มี.ค. 2565
เปิดประวัติ "หลวงพี่อุเทน" เจ้าอาวาสแห่งวัดท่าไม้ ผู้บวชให้ 2 โยคี "ปอ-โรเบิร์ต" ที่ยังมีมลทินในเรื่องของคดี
จากกรณีการเสียชีวิตของ แตงโม นิดา ที่สร้างความข้องใจให้คนในสังคม ต่อมามีรายงานว่า ปอ และ โรเบิร์ต ผู้ที่อยู่บนเรือตอนที่แตงโมเสียชีวิต ได้บวชพราหมณ์ด้วยวิธีโกนศีรษะ ที่ ธรรมสถานวิโมกสิวาลัย สถานที่ปฏิบัติธรรม ใน อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นสาขาของ วัดท่าไม้ ส่งผลให้ศิษยานุศิษย์ของ วัดท่าไม้ ต่างก็เกิดความไม่พอใจที่ทาง พระอุเทน สิริสาโร หรือ หลวงพี่อุเทน เจ้าอาวาสวัดท่าไม้ ให้ความช่วยเหลือ ปอ และ โรเบิร์ต ที่ยังมีมลทินในเรื่องของคดี
สำหรับ "พระอุเทน สิริสาโร" หรือ หลวงพี่อุเทน เกิดปีเถาะ เมื่อวันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2518 ที่บ้านเลขที่ 20/1 บ้านห้วยกรด ต.แหลมบัว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม แต่ต่อมาย้ายมาอยู่ใกล้วัดศรีมหาโพธิ์ ที่อำเภอศรีมหาโพธิ์ ที่อำเภอศรีมหาโพธิ์ ในจังหวัดนครปฐมเหมือนกัน
อยู่มาวันหนึ่ง พ่อของพระอาจารย์ซึ่งปกติเป็นคนไม่เชื่อพระ แต่เชื่อพวกซินแส เชื่อหมอดู เกิดได้ไปดูดวงกับซินแส ซึ่งบอกพ่อของพระอาจารย์ ว่าจะมีตัว ล่องจุ๊น มาเกิดและจะทำให้ครอบครัวตกอยู่ในวิกฤต ต้องล้มละลาย ซึ่งความจริงขณะนั้นพ่อของพระอาจารย์ยังไม่ทราบว่าแม่ตั้งท้องอยู่ เมื่อกลับมาถึงบ้านได้ถามแม่ว่าท้องหรือเปล่า เมื่อซึ่งทราบนิสัยของพ่อดีอยู่ก็ตกใจ จึงได้บอกปัดไปก่อนว่าไม่ท้อง แต่อย่างไรก็ตามเมื่อท้องโตขึ้นเรื่อยๆ พ่อก็ได้รู้ความจริงในที่สุด
ในขณะที่ตั้งท้องพระอาจารย์อยู่นั้น ที่บ้านมีปัญหาหลายอย่างทั้งไฟไหม้ มีโจรปล้น เป็ดไก่ที่เลี้ยงไว้ก็ล้มตาย รถบรรทุกสิบล้อที่มีให้เช่าก็ขาดทุน ด้วยความเชื่อตามคำทำนายของซินแส พ่อของพระอาจารย์จึงบังคับลากแม่ไปทำแท้ง ไปซื้อยามาต้มให้กินเพื่อให้แท้ง แต่เข้าใจว่าหมอคงให้ยาไม่แรง หรือไม่ก็เป็นเพราะตัวพระอาจารย์อุเทนเองจะต้องได้มาเกิด จึงยังคงรอดชีวิตอยู่ในครรภ์
แต่ถึงแม้จะยังมีชีวิตอยู่ในท้อง แม่ของพระอาจารย์ก็เล่าว่าเพราะฤทธิ์ยาที่ต้องกินเข้าไปทำให้ระหว่างนั้นพอลุกเดินเลือดก็ไหลออกมาทุกวัน อีกทั้งยาย (ซึ่งเป็นหมอตำแย ) ก็ได้รับคำสั่งให้บีบคั้นท้องเพื่อจะให้เด็กหลุดออกมาให้ได้ แต่ก็ยังไม่ออกมา
ตลอด 9 เดือน ที่แม่ของพระอาจารย์อุเทนตั้งท้องมา มีเลือดไหลออกมาตลอด เจ็บปวดทรมานมากกว่าจะได้คลอด กระทั่งได้ 9 เดือนกว่า จึงคลอดที่บ้านเมื่อคลอดออกมาแล้ว ปรากฏว่าพระอาจารย์ มีสภาพเหมือนลูกกรอก เหมือนเด็กที่ตายแล้ว ใครๆ มาเห็นกว่าบอกว่าเด็กนี่ไม่รอดแล้ว พ่อของพระอาจารย์อุเทนจึงขุดดินเพื่อจะเอาไปฝัง แต่ยายซึ่งเป็นหมอตำแยเอาสมุนไพรมาโปะตามตัวรวมทั้งหยอดยาใส่ปากให้ด้วย
และประวัติยังเปิดเผยว่า ช่วงที่พระอุเทนเกิดเป็นช่วงที่ครอบครัวลำบากมากที่สุด ต้องพึ่งข้าววัด บ้านหลังคารั่วผุ เวลานอนต้องเอาถุงมาพับหนุนหัวนอน ได้กินแต่น้ำข้าวเพราะแม่ไม่มีนมให้กิน
เมื่อเจริญวัย ก็เป็นเด็กที่เรียนเก่ง แต่เนื่องจากฐานะยากจน เมื่อเรียนจบชั้นประถม 6 มีครูเคยพาไปสมัครเรียนต่อเพราะเห็นว่าพระอุเทนเรียนเก่ง แต่ถูกแม่ขอว่าอย่าไปเลย เพราะไม่คนช่วยทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัว ซึ่งพระอุเทนทำงานตั้งแต่เรียนอยู่ประถม 1
บวชเพื่อแม่…หลังจากนั้น พระอุเทนก็ยังวนเวียนหางานทำ เพื่อเลี้ยงดูแม่และครอบครัวต่อไป จนกระทั่งแม่มาล้มป่วยจากโรคมะเร็ง จึงมีญาติมาแนะนำให้บวชเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรของแม่ ซึ่งก็ได้เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดท่ากระบือ จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 2540 มีพระครูสิริธรรมสาครธรรม เจ้าอาวาสในขณะนั้นเป็นพระอุปัชฌาย์ ซึ่งกุศลจากการบวชสามารถยื้อชีวิตของแม่มาได้ประมาณ 2-3 ปี
ต่อมา เมื่อแม่ของพระอุเทนล้มป่วยอีกครั้ง และครั้งนี้เห็นทีจะไม่รอดแล้ว จึงขอกับพระอุเทน
"เห็นไหม ... ในที่สุดก็ไม่มีอะไรเหลือเลย เอาอะไรไปด้วยไม่ได้เลย แม้แต่ร่างกายที่ผ่ายผอมนี้ก็เอาไปไม่ได้" จากนั้นแม่ของพระอาจารย์ก็ออกปากขอว่า "ไม่สึกได้ไหม" ซึ่งพระอุเทนก็รับปากและบวชมาเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบัน ซึ่งพระอุเทนศึกษาพระปริยัติธรรมจนจบระดับนักธรรมชั้นเอก และด้านปรัชญจาก ม.ราชภัฏวไลยอลงกรณ์
ทั้งนี้หลวงพี่อุเทน วัดท่าไม้ ถือว่าได้สร้างแรงยึดเหนี่ยวจิตใจของเหล่าคนดัง ซึ่งเรามักจะพบเห็น หรือจะได้ยินข่าวคราวว่า มีดาราหลายคนแวะเวียนมาเยี่ยมเยียน หรือปรึกษาชีวิตกับท่าน โดยทางพระอุเทน ได้กล่าวว่า ที่เป็นเช่นนั้น “เนื่องจากตนมีอายุไล่เลี่ยกับพวกเขา ทั้งยังเข้าใจอะไรหลาย ๆ อย่าง จึงสามารถให้คำปรึกษาในสิ่งที่หลายคนไม่สบายใจได้”