สาวน้อยวัย 14 อยากผอม ลดน้ำหนักโดย อดข้าว 23 ชม. นาน 1 ปี สุดท้ายทำแม่น้ำตาร่วง

สาวน้อยวัย 14 อยากผอม ลดน้ำหนักโดย อดข้าว 23 ชม. นาน 1 ปี สุดท้ายทำแม่น้ำตาร่วง กำลังเป็นที่สนใจอย่างมาก เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้ เผยแพร่เรื่องราวของสาวน้อยวัย 14 ปีที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งน้องคนนี้ปกติแล้ว ก็ไม่ได้มีร่างกายอ้วน พื้นฐานส่วนสูง 161 เซนติเมตร และน้ำหนัก 48 กิโลกรัม แต่ก็ยังอยากลดน้ำหนักลงอีก จึงเลือกใช้วิธี Intermittent Fasting หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า "IF" และ Low carbohydrate หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า LC

 

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

ต่อมาในวันที่ 21 มีนาคม ที่ผ่านมา ร่างกายของสาวน้อยก็เข้าขั้นวิกฤต เนื่องจากใช้วิธีลดน้ำหนักที่ค่อนข้างหนัก โดยการ IF 23/1 หมายถึงใน 1 วัน (24 ชั่วโมง) จะกินอาหารเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น ส่วนอีก 23 ชั่วโมงจะงดรับประทานอาหาร

แต่ที่หนักไปกว่านั้นคือ ใน 1 ชั่วโมงที่กินอาหารนั้น จะกินอาหารแบบ LC คือ กินอาหารแบบจำกัดปริมาณคาร์โบไฮเดรต หรืออาหารประเภทแป้ง ไม่ว่าจะเป็น ข้าว แป้ง ธัญพืช ผักที่มีแป้ง พืชหัว เผือก มัน ผลไม้ และขนมต่างๆ ที่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ โดยจะเน้นทานอาหารกลุ่มโปรตีนเป็นหลัก

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

เธอลดน้ำหนักด้วยวิธีนี้ตั้งแต่อายุที่ 13 ปี ซึ่งรวมระยะเวลายาวนาน 1 ปี จนทำให้เธอน้ำหนักลดลงอย่างสมใจ เหลือเพียง 39 กิโลกรัม เรียกได้ว่าผอมแบบหนังติดกระดูก แต่เมื่อเข้าตรวจร่างกาย พบว่าผลการตรวจเลือดจากแล็บเข้าขั้นวิกฤต 

โดยคุณแม่ของน้องยินดีให้ข้อมูล แต่ไม่ประสงค์ออกนาม จึงให้ครูช่วยนำเสนอ โดยสิ่งที่น้องกำลังเจอ คือ...
1. เกิดภาวะธาลัสซีเมีย
2. ไขมันในเลือดสูงมาก
3. ตัวร้อน Heat แต่วัดอุณหภูมิปกติ
4. ผิวหยาบกร้าน แห้งรุนแรง ปากแตก
5. ผมแห้งหยาบ
6. ตอนนี้ร่างกายไม่รับอาหารทุกชนิด
7. อาเจียนอย่างเดียว
8. นอนซมไม่มีแรงขยับร่างกาย

ขณะเดียวกัน นายพงศ์พันธ์ บัวเพ็ชร หรือ เรียว ผู้ก่อตั้ง Fat Fighting การออกกำลังกายและโภชนาการอาหาร แสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ว่า โภชนาการดังกล่าวไม่เหมาะกับเด็กในวัยกำลังเจริญเติบโตอย่างยิ่ง ส่วนหนึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นผลของสื่อโซเชียล ซึ่งเด็กสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น ทางหนึ่งก็ดี แต่อีกทางก็เป็นปัญหา

 

อีกทั้งปัญหาอิทธิพลของไอดอล และอินฟลูเอนเซอร์ที่ให้ข้อมูลโภชนาการพวกนี้โดยไม่ให้คำเตือนว่าคนกลุ่มไหนไม่เหมาะกับมันบ้าง และมีผลกระทบอะไรบ้าง พวกอินฟลูเอนเซอร์ที่ไม่มีความรู้ก็แย่ระดับหนึ่งแล้ว แต่บางคนเป็นแพทย์ บทบาทน่าเชื่อถือ แต่น่าเสียดายที่บางคนสวมหมวกแพทย์ แต่กลับให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนและสุดโต่ง โดยไม่คิดว่าจะส่งผลกระทบกับชีวิตใครอีกบ้าง ขณะที่สาวกก็อวยกันไม่ขาดสาย

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

พร้อมกันนี้ข้อมูลไม่ถูกต้อง ก็ไม่แย้งเพราะเชื่อในศาสดาอย่างไม่ลืมหูลืมตา น่าสงสารน้องคนนี้และอีกหลายคนที่ได้รับผลกระทบ หวังว่าน้องจะฟื้นฟูจิตใจและร่างกายไม่ให้บอบช้ำไปมากกว่านี้ เป็นกำลังใจให้น้องและครอบครัวด้วย

           
นอกจากนี้ มีหมอท่านหนึ่งแสดงความคิดเห็นว่า Metabolic Error เป็นกลุ่มโรคพันธุกรรมด้านการย่อยอาหาร ตอนนี้เคสของเด็ก 14 ปี น้องเข้าขั้นรุนแรงแล้วนะ ทุกวันนี้เวลาคนไข้มาด้วยอาการแปลก ๆ จะถามเรื่องอาหารการกินตลอด IF ไหม Keto ไหม สุดท้ายแล้วเจอเกือบ 80% เลย

 

อย่างไรก็ตาม ยังมีการแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ด้วยความสลดใจ ระบุว่า อ่านเคสเด็กอายุ 13 ที่ทำ IF แล้วกิน LC รัวเป็นปีจนสภาพร่างกายพังนี่น่ากลัวมาก เวลาใครมาถามเรื่อง IF เราจะบอกว่าถ้ารู้สึกเครียดที่ต้องทำหรือฝืนการใช้ชีวิตก็ไม่ต้องทำ มันไม่ได้ช่วยการไดเอตแบบเทวดาขนาดนั้น ที่สำคัญคือ ถ้าร่างกายเครียดทุกอย่างคือจบ

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

ข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Pattharaporn Limhoksee, ทวิตเตอร์ @PatheNeuro