- 11 เม.ย. 2565
เปิดใจ นายศุภฤกษ์ ชาญเชิดศักดิ์ หรือ "หมอเสือ"หนุ่มแต่ง 3 เมีย พร้อมเดินหน้าหาคนที่ 4 ต่อ ชี้หลายเมียไม่ผิด ...
จากกรณีเรื่องราว นายศุภฤกษ์ ชาญเชิดศักดิ์ หรือ หมอเสือ อายุ 35 ปี หมอพื้นบ้านที่สืบทอดศาสตร์การแพทย์แผนไทย จัดพิธีแต่งงานโดยมีเจ้าสาวถึง 3 คน แถมทางเจ้าสาวยังหอบสินสอดมาสู่ขอเจ้าบ่าวอีกด้วย สร้างความฮือฮาให้กับผู้ที่ทราบข่าวเป็นอย่างมาก ล่าสุดรายการเป็นเรื่องใหญ่ ได้สัมภาษณ์ ศุภฤกษ์ ชาญเชิดศักดิ์ หรือ หมอเสือ มาพร้อมกับ ภรรยาคนที่ 3 กวินธิดา กุลภัทรไชยบูรณ์ มีรายะเอียดดังนี้
หมอเสือเป็นหมอจริง ๆ?
ศุภฤกษ์ : ผมเป็นหมอยาพื้นบ้านที่รักษาด้วยสมุนไพรแบบการแพทย์แผนไทย เขาเรียกกันว่าเป็นแพทย์แผน ค.
เห็นว่ารักษาถ้าบางคนไม่มีเงินก็ไม่คิดเงินเขา ?
ศุภฤกษ์ : ใช่ครับ
เราเป็นคนที่มีฐานะโอเคอยู่แล้วหรือเปล่า ?
ศุภฤกษ์ : ไม่นะ พออยู่ไปได้เฉย ๆ ไม่ได้รวยแบบพ่อแม่ทิ้งสมบัติให้หรืออะไร
ทำไมเราถึงเริ่มต้นมาศึกษาแพทย์แผนไทยหรือยาแผนไทยขึ้นมา ?
ศุภฤกษ์ : มันเป็นมรดกของตระกูล ถ่ายทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น พอพ่อเสียชีวิตไป ผมก็ต้องมาครองโรงหมอต่อ เพราะคนไข้ที่ยังอยู่ในระหว่างการรักษาหรืออยากจะรักษามันมีต่อเนื่อง มันเป็นเหมือนภาระหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ที่สืบต่อและส่งมา
แปลว่าเราไม่ได้ใช้ยาแผนปัจจุบันเลย เช่นยาแก้ปวด แก้อักเสบ ?
ศุภฤกษ์ : ไม่มี ใช้เป็นสมุนไพรอย่างเดียวเลยจากธรรมชาติทั้งหมด
พอเป็นยาสมุนไพรเราถึงขั้นต้องไปเก็บยาเองในป่าอะไรแบบนี้ไหม ?
ศุภฤกษ์ : ไปครับ ตามนา ยันชายป่า ยันข้างทาง ที่มันขึ้นเก็บหมด
เรามั่นใจมากน้อยแค่ไหนถึงความปลอดภัย มันเชื่อถือได้ในระดับไหน ?
ศุภฤกษ์ : ถ้าเราไปซื้อผักหรือข้าวปลอดสารกินมันเคยอันตรายกับเราไหม อันนี้มันก็คือสิ่งธรรมชาติโดยไร้สิ่งปรุงแต่ง มันจะอันตรายก็ต่อเมื่อ คนไม่มีความรู้โดยละเอียด เอาไปใช้ผิดประเภท
แล้วการที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยโรคเปลี่ยนแปลงไป มันส่งผลให้เราหายายากขึ้นหรือมีไม่พอในการรักษาไหม ?
ศุภฤกษ์ : จริงเลย ปีนี้ถึงขั้นวิกฤตเหมือนกัน ถ้าหาไม่ได้ก็แล้วแต่เวรแต่กรรมพี่ ต้องรอเวลา
อันนี้คืออาชีพหลักของเราเลยเหรอครับ ?
ศุภฤกษ์ : ใช่ครับ เปิดแค่เสาร์-อาทิตย์พอ วันธรรมดาก็ต้องไปหายาเตรียมยา
เราใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะให้คนเชื่อและยอมรับในจุดนี้ได้ ?
ศุภฤกษ์ : พี่อย่าถามว่าเชื่อหรือยอมรับ คนไม่เชื่อมันคือไม่เชื่อ คนที่เขามาคือเขาเชื่อ ตลอดเวลาที่สืบต่อมา 9 ปี แล้ว ในตลอด 9 ปีที่ออกมาทุกรายการคนด่าก็ยังด่าเหมือนเดิม คนที่เชื่อหรือคนที่หายเพราะมือเราเขาก็ไปด่ากลับกัน ด่ากันไปมาถึงบอกเลยว่า ไม่เสพคอมเมนต์ ตัวเราเรารู้ว่าเราทำอะไร
ก่อนหน้านี้ก็มีความเชื่อ ผมถามด้วยใจจริง ๆ ว่ามันจะเอาเส้นตรงไหนมาแบ่งที่จะทำยังไงให้ไม่เลยเถิดหรืออันตราย?
ศุภฤกษ์ : เรื่องพวกนี้คนที่มาหาหรือใช้บริการคนนั้นคือผู้ตัดสินเราว่าเราใช่หรือไม่ใช่ ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมไม่เคยเสียเลย มันตัดสินกันตรงนี้
ส่วนใหญ่คนที่มาจะเป็นคนที่รักษาแผนปัจจุบันแล้วไม่หายไหม ?
กวินธิดา : ทั้งนั้น มาแบบเหมือนที่เราเป็นที่สุดท้าย
ศุภฤกษ์ : บางคนมาแบบยับ ๆ มาแล้ว ถ้าเปรียบเหมือนไก่ เขาเหมือนเหลือแต่นิ้วตีนไก่มาให้ผมแล้วผมต้องทำนิ้วตีนไก่ออกมาให้เป็นไก่ 1 ตัว
กวินธิดา: เหมือนบางคนก็ไปจ่ายค่าใช้จ่ายสูง ๆ มาแล้วพอมาถึงเราก็หมดตัวมาเลยก็มี
เราคิดค่ารักษายังไง ?
ศุภฤกษ์ : คิดเป็นค่ายาเฉย ๆ ค่ะ ใช้แค่ไหนก็แค่นั้น
เราอยู่บนเรื่องของสมุนไพรแต่ก็ไม่ได้มีแบบว่าปลุกเสก อันเชิญ ?
ศุภฤกษ์ : ไม่มีๆ
มันฮือฮามากใน Tiktok ที่มันฮือฮามากก็คือภรรยา 3 คนเป็นคนมาสู่ขอเราแต่งงาน เรารู้มาก่อนไหม ?
ศุภฤกษ์ : มันพูดกันเฉย ๆ 3 คน เราก็นึกว่ามันอำเล่นมั้ง ไม่มีอะไรทำ เราไม่ได้สนใจอยู่กันมา คนแรก 16 ปีที่รู้จักกัน คนที่ 2 ก็ 16 ปี แต่อยู่กันจริง ๆ 9 ปี คนแรกกับคนที่ 2 ผมรู้จักมาพร้อม ๆ กัน ส่วนคนที่สาม 7 ปีที่รู้จัก
มันก็จะมีบางความเชื่อบางสังคมที่บอกว่ามีเมียหลายคนไม่ใช่เรื่องผิด เรามีความเชื่อแบบนั้นไหม ?
ศุภฤกษ์ : ถ้าศาสนาพุทธข้อที่ 3 ห้ามผิดลูกผิดเมีย 1 คือผมไม่ได้แย่งใครมา 2 คือผมไปขอกับพ่อแม่เขามาโดยถูกต้อง แล้วพ่อแม่เขารับรู้ เมียผมรับรู้ ผมผิดตรงไหน ผมผิดเรื่องเดียวทำให้คนอิจฉาตาร้อน
ธรรมชาติของคนเราอยากเป็นรักเดียวหรือเปล่า?
ศุภฤกษ์ : ถูก ๆ อันนี้เข้าใจ
ก่อนที่เมียคนที่ 1 จะเข้าใจจนถึงขั้นไปสู่ขอเมียคนที่ 2 ให้เราเลย มันมีแบบอยู่กับหนูคนเดียวไม่ได้เหรอ หรืออะไรแบบนี้ไหม ?
ศุภฤกษ์ : คือคนที่ 1 กับ 2 เขารู้จักกันมา เพราะคนที่ 2 เขาเป็นญาติของคนไข้พ่อผม ด้วยความที่มาแล้วสนิทกัน ซื้อของมาฝาก มาเล่นกับลูกเรา พอบอกว่าเป็นคนนี้ถามว่าคนแรกเขาตกใจไหม ก็อาจตกใจ ถามว่าเสียใจไหมผมว่าต้องมีนิดหนึ่ง แต่ด้วยความที่เขาเคารพและเชื่อในการตัดสินใจของเรา เขาก็ยอม
ตอนนั้นมีสักครั้งไหมที่ทะเลาะกัน ?
ศุภฤกษ์ : ไม่มีครับ เพราะผมพูดแค่คำเดียว ผมพูดกับคนที่ 2 ว่า ถ้าฉันสามารถทิ้งนาเดียร์เพื่ออยู่กับเธอวันหนึ่งถ้าฉันเจอคนอื่นฉันก็ทิ้งเธอเหมือนกัน ผมพูดกับคนที่ 1 ว่า จะทิ้งไปทำไมเราอยู่เราเริ่มสร้างมาด้วยกัน นี่คือต่อไปที่เราจะมีคนหนึ่งมาในชีวิตเราและเราจะร่วมสร้างกันต่อไปอีก
แล้วตอนที่คนที่ 3 โผล่มาอีกมันก็คงไม่ได้ลั้ลลาจุดพลุต้อนรับไหม ?
ศุภฤกษ์ : ไม่นะ เอาอย่างนี้ดีกว่า ตอนพ่อแม่ของคนที่ 2 ไม่เชื่อเขาบอกให้น้องเดียร์มา ผมบอกมาแล้วอยู่ในรถเลยเขาก็ตกใจ นาเดียร์ก็บอกจริงแม่ เนี่ยหนูมาขอ แล้วผู้ใหญ่เขาเข้าใจ แล้วเขาบอกแค่ ถ้าอยู่กันได้แล้วมีแต่สิ่งดี ๆ เกิดขึ้นเขาก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ
เราได้จะทะเบียนสมรสไหม ?
ศุภฤกษ์ : ไม่พี่ จะจดยังไงมีตั้ง 3 คน ถ้าเขามีให้จดทะเบียน 3 ใบได้ผมพาไปเลย เพียงแต่ว่ารับรองบุตรทุกคน ภรรยาคนแรกมีลูก 4 คน คนที่สองมี 4 คน แล้วคนที่สาม 1 คน
แล้วตั้งใจจะมีอีกไหม ?
กวินธิดา : หนูไม่ได้มีเวลามาก คือหลังมาเราไม่ได้ออกในเชิงจะต้องเป็นผัวเมียอยู่ด้วยกัน จะเป็นเหมือนภารกิจมากกว่าที่ต้องทำงานร่วมกัน
ตอนที่คุณหมวยเดินเข้ามา รู้มาก่อนใช่ไหมว่าเขามีภรรยา 2 คน ?
กวินธิดา : พี่หมอบอกตั้งแต่ตอนคุยเลยค่ะ คือหนูอยู่เป็นโสดมา 2 ปี พี่หมอก็มาบอกว่าพี่เป็นหมอสมุนไพรรู้จักมั้ย พี่เป็นคนจน ๆ รักษาคนฟรี พระภิกษุสงฆ์ เด็กแรกเกิดจนถึง 12 ปี หนูโอเคมั้ยถ้าหนูจะเข้ามาในชีวิตพี่ ตอนนั้นหนูก็ปากไวค่ะว่าถ้าเมียพี่มาขอหนู หนูจะไปอยู่ช่วย
ตอนนั้นเรารู้สึกดีหรือรักเขาหรือยัง ?
กวินธิดา : เฉย ๆ ค่ะ หนูพูดเล่น เพราะคิดว่าเขามีเมียตั้ง 2 คนแล้ว ผู้หญิงที่ไหนจะกล้ามาคุยกับเรา
ในที่สุดทำไมถึงกล้าตัดสินใจ ?
ศุภฤกษ์ : เข้า รียกว่าพูดผิดชีวิตเปลี่ยน พอผมกดวางสายปุ๊บ เมียผมโทร. ไปต่อเลย
ตอนคุณไปบอกภรรยาทั้งสองคนเขาโอเคเหรอ ?
ศุภฤกษ์ : ถ้าไม่โอเคเขาจะโทร. ให้ทำไมพี่ ถ้าผมตัดสินใจว่าใช่ผมจะบอก แต่ถ้าคุยแล้วไม่ใช่จะบอกทำไมให้วุ่นวาย
ตอนเรารับสายแล้วเป็นไงครับ ?
กวินธิดา : ก็พี่คนที่สองเขาโทร. มาว่ามาอยู่บ้านเดียวกันนะช่วยกันทำยาอยู่กันแบบนี้ ๆ ที่หมอต้องมีเมียประมาณ 4 คน
ทำไมต้องมีเมีย 4 คน ?
ศุภฤกษ์ : ผมเป็นวรรณะพราหมณ์ผมมีได้ถึง 4 คน แต่ไม่จำเป็นต้องมี การจะมีเมียไปถึง 4 ต้องผ่านการเห็นชอบของทุกคน
ถ้าย้อนกลับไปครอบครัวคุณพ่อคุณแม่ของคุณก็มีเกินหนึ่งไหม ?
ศุภฤกษ์ : ผมไม่แน่ใจเพราะพ่อมาเจอแม่ เหลือผมแค่เป็นลูก 1 คนแล้ว แต่ก่อนหน้านี้ผมไม่รู้
คนหมวยเป็นพราหมณ์ด้วยหรือเปล่า ?
กวินธิดา : ไม่ค่ะ เป็นคนไทย
แล้วคุณรู้สึกตะขิดตะขวงใจไหม ?
กวินธิดา : ถามว่ารู้สึกไหมรู้สึกค่ะ แต่พอมันมาถึงจุดหนึ่งที่เข้ามาอยู่ในครอบครัวจริง ๆ สิ่งที่พี่หมอทำให้เราเห็น มันไม่ใช่การเป็นอยู่ของคำว่าชู้สาวหรือความรักเฉย ๆ แต่เขาเสียสละสุขส่วนตัวในการหายาในการคิดค้นในการช่วยเหลือคน แล้วเขาพิสูจน์หลาย ๆ อย่างให้เราเห็นว่าสิ่งที่เขาทำไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แล้วก็เด็ก ๆ เวลาที่เราอยู่ด้วยกันมันเหมือนเป็นความรักที่เขาเรียกเราว่าแม่
แล้วคนที่หนึ่งสองสามเด็ก ๆ จะเรียกยังไง ?
กวินธิดา : เรียกแม่แล้วตามด้วยชื่อค่ะ
เด็กทุกคนอยู่ในศาสนาพราหมณ์หมดเลยไหม ?
กวินธิดา : การรับเข้ามันต้องมีพิธีอีก ซึ่งเรายังไม่ได้บีบบังคับลูกขนาดนั้น แต่ตอนนี้สักขีพยานรักของเรา 9 คนแล้ว
หมอเสือคิดว่าจะมีเมียครบ 4 คนเลยไหมครับ ?
ศุภฤกษ์ : อันนี้ตอบไม่ได้ เพราะถามว่าผมหาไหม ผมหามา 5 ปี เพราะว่ามันมีเรื่องใหญ่ที่ต้องทำอีกเยอะ ตัวเราคนเดียวทำไม่ได้ แล้วการที่เราถ่ายทอดให้คนอื่นคนนอกก็ไม่ได้ แต่อันนี้คือคู่ปฏิญาณที่จะอยู่กับเรา เราเชื่อใจแล้ว แต่ที่ไม่ยอมหาแบบจริงจัง เพราะแค่ 3 คนผมก็ปวดหัวแล้ว
3 คนเคยทะเลาะกันไหม ?
กวินธิดา : ทะเลาะกันค่ะ เรื่องงานเป็นหลัก ไม่เคยทะเลาะกันเรื่องพี่เสือเลย
ศุภฤกษ์ : มันรวมหัวกันไล่ผมออกไปข้างนอก อยากมีเพิ่มมีเลย
ทำไมไม่หึงหวงเลย ?
กวินธิดา : เป็นคำว่าห่วงมากกว่าค่ะ เขาโตแล้วเขามีสิทธิของเขา ความรักมันเกิดจากคน 2 คน เริ่มต้น ถ้าพี่มีความสุขที่จะรักอีกคนเพิ่มพวกหนูไม่ว่า เพราะพวกหนูอยู่กันได้ หนูรักกัน 3 คนกับลูก 9 คน ถ้าจะมีเพิ่มไม่ว่ากันแต่อย่ามามีปัญหากับคนในบ้าน แล้วก็ต้องรักลูกหนู รักพี่สาวหนู น้องสาวหนู เท่าเทียมกัน
คุณจ่ายเงินเดือนเขาเหรอ หรือเลี้ยงดูเขา หรือว่าไง?
ศุภฤกษ์ : ได้เป็นเงินเดือนทุกคน
กวินธิดา : เป็นเงินเดือนค่ะ เงินเดือนก็ลูกก็คือได้ส่วนของลูก เมียก็จะส่วนของเมีย เท่ากันทุกคน
แล้วทีหลังเรื่องลูกจะมีปัญหาไหม เช่นลูกของเมียคนที่หนึ่งได้รถอะไรแบบนี้ ?
ศุภฤกษ์ : ไม่ครับ คืออะไรรู้ไหมพี่ก็จ่ายเงินให้ไปแล้ว เป็นหน้าที่แม่ที่ต้องไปเก็บ ไปฝากกันเอาเอง
กวินธิดา : เหมือนอย่างคนแรกมีลูก 4 คนลูกก็จะได้เงินเดือนต่างหาก 4 คน แล้วก็ของคุณแม่ด้วย อย่างหนูมีลูกคนเดียวหนูก็จะได้แค่เงินเดือนหนูกับลูก แต่เหนือสิ่งอื่นใดหนูไม่ได้คิดว่าหนูมีลูกคนเดียว หนูคิดว่าหนูมี 9 คน เพราะฉะนั้นทุกสิ่งที่หนูสร้าง หนูก็จะให้ลูก 9 คนเท่ากัน ทั้งหมดเป็นครอบครัวเดียวกัน ถ้าเขาจะมีคนที่ 4 จริง ๆ หนูพร้อม และคิดว่าเขาจะมีอีกเรื่อย ๆ ค่ะ